คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของการไฟฟ้านครหลวง

เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ พนักงาน ผู้ใช้บริการ และคู่ค้าของการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงผู้ซึ่งได้รับความยินยอมให้ทํางาน หรือทําประโยชน์ให้แก่การไฟฟ้านครหลวง หรือในสถานประกอบกิจการของการไฟฟ้านครหลวง ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรก็ตาม ทราบและเข้าใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย การบริหารจัดการ ข้อมูลส่วนบุคคลของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของข้อมูล

“ข้อมูล" หมายความว่า เรื่องราว หรือข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะปรากฏในรูปของตัวอักษร ตัวเลข เสียง ภาพ หรือรูปแบบอื่นใดที่สื่อความหมายได้โดยสภาพของสิ่งนั้นเอง หรือโดยผ่านวิธีการใด ๆ

“บุคคล" หมายความว่า บุคคลธรรมดา

“เจ้าของข้อมูล" หมายความว่า บุคคลที่ข้อมูลนั้นสามารถระบุตัวตนไปถึงได้

“ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่ทําให้ระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถแยกแยะตัวเจ้าของข้อมูลออกจากบุคคลอื่น สามารถติดตามพฤติกรรมของเจ้าของข้อมูล หรือสามารถเชื่อมโยงกับชุดข้อมูลอื่นแล้วทําให้สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม เช่น

  1. ชื่อ - นามสกุล
  2. เลขประจําตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขใบอนุญาตขับขี่ เลขประจําตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า (Contract Account : CA)
  3. ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์
  4. ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือและข้อมูลบันทึกต่าง ๆ ที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ของบุคคล เช่น IP Address, MAC Address, Cookie, User ID และ Log File เป็นต้น
  5. ข้อมูลทางชีวมิติ (Biometric) เช่น รูปภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ ฟิล์มเอกซเรย์ ข้อมูลสแกนม่านตา ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง และข้อมูลพันธุกรรม เป็นต้น
  6. ข้อมูลระบุทรัพย์สินของบุคคล เช่น ทะเบียนรถยนต์ โฉนดที่ดิน เป็นต้น
  7. ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่น ซึ่งทําให้สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ เช่น วันเกิด และสถานที่เกิด เชื้อชาติ สัญชาติ น้ำหนัก ส่วนสูง ข้อมูลตําแหน่งที่อยู่ (Location) ข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลการศึกษา ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลการจ้างงาน เป็นต้น
  8. ข้อมูลการประเมินผลการทํางานหรือความเห็นของนายจ้างต่อการทํางานของลูกจ้าง
  9. ข้อมูลที่สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลอื่นในอินเทอร์เน็ต หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า ผู้ที่มีหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล" (Data Protection Officer: DPO) หมายความว่า ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ให้คําแนะนําและตรวจสอบการดําเนินงาน ประสานงาน และให้ความร่วมมือกับสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1.1 การไฟฟ้านครหลวงจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ผู้ใช้บริการ และคู่ค้าของการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงผู้ซึ่งได้รับความยินยอมให้ทํางานหรือทําประโยชน์ให้แก่การไฟฟ้านครหลวง หรือในสถานประกอบกิจการของการไฟฟ้านครหลวง ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรก็ตาม เพื่อวัตถุประสงค์ ในการดําเนินงานของการไฟฟ้านครหลวง การศึกษา วิเคราะห์ วิจัย หรือการจัดทําสถิติ และเพื่อปรับปรุงคุณภาพ ของการให้บริการแก่เจ้าของข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นธรรมมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จําเป็น

ในกรณีการให้บริการทางเว็บไซต์ การไฟฟ้านครหลวง จะจัดเก็บบันทึกข้อมูลการเข้าออกเว็บไซต์ โดยระบบอัตโนมัติ เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และติดตามการใช้บริการทางเว็บไซต์ และการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน โดยจะจัดเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จําเป็น การไฟฟ้านครหลวงอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น ที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลโดยตรงเฉพาะในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และหรือปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพการให้บริการของการไฟฟ้านครหลวง โดยจะแจ้งถึงการจัดเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลทราบ

1.2 การไฟฟ้านครหลวงอาจส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคล หน่วยงาน องค์กร นิติบุคคล ภายนอกซึ่งมีสัญญาอยู่กับการไฟฟ้านครหลวง หรือมีความสัมพันธ์ด้วย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพการให้บริการของการไฟฟ้านครหลวง

1.3 การไฟฟ้านครหลวงจะดําเนินการ 1.1 - 1.2 เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้

1.3.1 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดกับชีวิตสุขภาพของเจ้าของข้อมูล เช่น การส่งข้อมูลส่วนบุคคลต่อโรงพยาบาลเพื่อการรักษาที่เจ็บป่วยฉุกเฉินจนไม่สามารถให้ความยินยอมได้ด้วยตนเอง และไม่มีวิธีอื่นที่สามารถกระทําได้โดยไม่เปิดเผยข้อมูล เป็นต้น

1.3.2 เพื่อปฏิบัติตามสัญญา
เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจําเป็น ต่อการให้บริการหรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและการไฟฟ้านครหลวง เช่น เจ้าของข้อมูลที่ประสงค์จะทําสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งมีความจําเป็นจะต้องทราบชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เพื่อให้บริการ เป็นต้น

1.3.3 เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ
ความจําเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่ ตามอํานาจรัฐที่ การไฟฟ้านครหลวง ได้รับมอบหมาย โดยการไฟฟ้านครหลวงจะพิจารณาถึงความจําเป็นระหว่างการดําเนินภารกิจและสิทธิของเจ้าของข้อมูล ดังนั้น หากการไฟฟ้านครหลวงมีหน้าที่ตามภารกิจของรัฐก็สามารถใช้ฐานนี้ในการประมวลผลข้อมูลได้ เช่น โครงการที่เกี่ยวกับสิทธิสวัสดิการตามนโยบายของรัฐ เป็นต้น

1.3.4 เพื่อประโยชน์อันชอบธรรม
ในการดําเนินงานของการไฟฟ้านครหลวงจะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสําคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่าย การปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล เป็นต้น

1.3.5 เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ
กรณีที่มีการจัดทําเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล

1.3.6 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
กรณีมีความจําเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่กฎหมายกําหนด หรือตามคําสั่งของหน่วยงานรัฐที่มีอํานาจ แต่จะต้องไม่ใช่กรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลมีดุลพินิจในการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีทางเลือกอื่นใดที่สามารถทําได้ เช่น การไฟฟ้านครหลวงอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กรมสรรพากร หรือการส่งข้อมูลส่วนบุคคลตามคําสั่งของพนักงานอัยการหรือศาล และการจัดเก็บข้อมูล Log File ตามที่กําหนดในพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

1.4 การไฟฟ้านครหลวง จะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทํานองเดียวกัน เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งเท่านั้น หรือข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกําหนด

2. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้ทั้งฉบับ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถร้องขอให้ การไฟฟ้านครหลวง ดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูล ดังนี้

2.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือชี้แจงถึงการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม โดยการไฟฟ้านครหลวงจะจัดเตรียมหรือจัดทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามช่องทางที่การไฟฟ้านครหลวงกำหนด

ทั้งนี้การไฟฟ้านครหลวงมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล หรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

2.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง เป็นปัจจุบัน ครบถ้วนสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยจะต้องนำหลักฐานหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดง หากการไฟฟ้านครหลวงเห็นว่าการขอแก้ไขข้อมูลนั้นไม่มีเหตุผลเพียงพอ การไฟฟ้านครหลวงจะปฏิเสธคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลและจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน

2.3 สิทธิในการลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ โดยการไฟฟ้านครหลวงจะดำเนินการตามคำร้องขอภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

(1) เมื่อหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์

(2) เจ้าของข้อมูลเพิกถอนความยินยอม และการไฟฟ้านครหลวงไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

(3) เจ้าของข้อมูลคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติภารกิจของรัฐและเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม และการไฟฟ้านครหลวงไม่สามารถปฏิเสธการคัดค้านได้

(4) ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ การไฟฟ้านครหลวงมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอกรณีดังนี้

(ก) การเก็บรักษาไว้เพื่อความจำเป็นในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

(ข) การเก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ ฯลฯ

(ค) การเก็บรักษาไว้เพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของการไฟฟ้านครหลวง หรือปฏิบัติตามอำนาจรัฐที่ การไฟฟ้านครหลวง ได้รับมอบหมาย

(ง) การเก็บรักษาข้อมูลที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน อาชีวเวชศาสตร์ ประโยชน์ด้านการสาธารณสุข และอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

(จ) การใช้เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิ เรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย

2.4 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
กรณีเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้กับการไฟฟ้านครหลวง เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอเพิกถอนความยินยอมนั้นได้ โดยการไฟฟ้านครหลวงจะดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูล แต่ไม่รวมถึงการดำเนินการอื่นใดที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอม ทั้งนี้การไฟฟ้านครหลวงมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอหากมีข้อจำกัดสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมโดยกฎหมาย

2.5 สิทธิในการขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้จากเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทั่วไปรวมทั้งมีสิทธิขอตรวจสอบการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

(1) ต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

(2) การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการ หรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูล และการไฟฟ้านครหลวง

ทั้งนี้การไฟฟ้านครหลว จะปฏิเสธการขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล หากเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยการไฟฟ้านครหลวงจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน

2.6 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอห้ามมิให้การไฟฟ้านครหลวงใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ตามเงื่อนไข ดังนี้

(1) การไฟฟ้านครหลวงอยู่ระหว่างดำเนินการตามข้อ 2.2 หากตรวจสอบได้ว่าข้อมูลนั้นถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว การไฟฟ้านครหลวงสามารถปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าวได้

(2) เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเจ้าของข้อมูลไม่ได้ใช้สิทธิขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ ตามข้อ 2.3 (4) แต่เจ้าของข้อมูลขอให้ระงับการใช้แทน ทั้งนี้การไฟฟ้านครหลวงจะปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าว หากสามารถอ้างฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้

(3) เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แต่เจ้าของข้อมูลขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(4) การไฟฟ้านครหลวงอยู่ระหว่างการพิสูจน์เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของเจ้าของข้อมูล ตามสิทธิข้อ 2.7

2.7 สิทธิในการคัดค้าน
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไข ดังนี้

(1) เพื่อการปฏิบัติภารกิจของรัฐและเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้การไฟฟ้านครหลวงจะปฏิเสธการคัดค้าน หากพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(2) เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สถิติ ทั้งนี้การไฟฟ้านครหลวงจะปฏิเสธการคัดค้าน หากมีความจำเป็นในการดำเนินตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของการไฟฟ้านครหลวง โดยการไฟฟ้านครหลวงจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ หากไม่เข้าข้อยกเว้นการปฏิเสธการคัดค้านการไฟฟ้านครหลวงจะไม่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป โดยจะแยกส่วนออกจากข้อมูลอื่นอย่างชัดเจน เมื่อเจ้าของข้อมูลได้แจ้งการคัดค้านให้การไฟฟ้านครหลวงทราบ

2.8 สิทธิการได้รับแจ้งข้อมูล
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิจะได้รับแจ้งข้อมูล กรณีที่การไฟฟ้านครหลวงได้รับข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง หรือได้รับจากบุคคลที่สาม ตามช่องทางสื่อสารของการไฟฟ้านครหลวง

3. ข้อสงวนสิทธิ

การไฟฟ้านครหลวงขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอตามข้อ 2 กรณีดังต่อไปนี้

(1) กฎหมายกำหนดให้สามารถดำเนินการได้

(2) ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อ หรือบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้

(3) ผู้ยื่นคำร้องไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของข้อมูลหรือเป็นผู้มีอำนาจในการยื่นคำร้องขอดังกล่าว

(4) คำร้องขอดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล เช่น กรณีที่ผู้ร้องขอไม่มีสิทธิตามกฎหมาย หรือไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในความครอบครองของการไฟฟ้านครหลวง เป็นต้น

(5) คำร้องขอดังกล่าวเป็นคำร้องขอฟุ่มเฟือย เช่น เป็นคำร้องขอที่มีลักษณะเดียวกัน หรือมีเนื้อหาเดียวกันซ้ำ ๆ กันโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นต้น

4. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย

การไฟฟ้านครหลวงจะรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยการกำหนดมาตรการเชิงเทคนิคและเชิงบริหารจัดการ วิธีปฏิบัติและสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดและหรือสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

การไฟฟ้านครหลวงจะมีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ดังนี้

4.1 เงื่อนไขในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
เช่น การกำหนดชั้นความลับ วิธีการเข้าถึงข้อมูล และการจำกัดการเข้าถึงข้อมูล เป็นต้น

4.2 กระบวนการรองรับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทางกายภาพ
จัดให้มีสถานที่ที่เหมาะสมและปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลหรือเอกสารต่าง ๆ และกำหนดกระบวนการลบหรือทำลายข้อมูลและอุปกรณ์เมื่อหมดความจำเป็นหรือได้รับการร้องขอจากเจ้าของข้อมูล

4.3 กระบวนการรองรับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
เช่น การแฝงข้อมูล (Pseudonymization) การจัดทำข้อมูลนิรนาม (Anonymization) และการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) เป็นต้น

4.4 กำหนดแผนการรับมือและแก้ไข กรณีมีการรั่วไหลหรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

4.5 มีมาตรการเชิงเทคนิคและเชิงบริหารจัดการเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการดำเนินงานที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลให้เหมาะสมกับการบริหารความเสี่ยงของ การไฟฟ้านครหลวง ตามมาตรฐานสากล

5. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

การไฟฟ้านครหลวงอาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศนี้ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลง เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย โดยจะทำการเผยแพร่บนเว็บไซต์ https://www.mea.or.th และแสดงวันที่มีผลบังคับใช้ ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่ และเพื่อเป็นการรับทราบรายละเอียดของประกาศนี้ก่อนการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่การไฟฟ้านครหลวง

โดยในการเข้าใช้บริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

6. วิธีการติดต่อ

เจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของการไฟฟ้านครหลวง อีเมล meadpo@mea.or.th หรือการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ อาคารวัฒนวิภาส เลขที่ 1192 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 เว็บไซต์ https://www.mea.or.th หรือ Call Center 1130 หรือที่การไฟฟ้านครหลวงเขต

เอกสารแนบ