ข่าวประชาสัมพันธ์
15 พฤษภาคม 2567
วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัวคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใหม่ๆ ซึ่งรวมถึง Eye Tracking หรือการติดตามดวงตา Music Haptics และ Vocal Shortcuts
คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple ประกาศเปิดตัวคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใหม่ๆ ที่จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการติดตามดวงตาที่จะช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ควบคุม iPad หรือ iPhone ได้ด้วยการใช้ดวงตาเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ Music Haptics ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยิน สามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงในรูปแบบใหม่โดยใช้ Taptic Engine ใน iPhone, Vocal Shortcuts จะช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยคำสั่งเสียงแบบกำหนดเอง, Vehicle Motion Cues สามารถช่วยลดภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถเมื่อใช้ iPhone หรือ iPad ในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ และยังมีคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงอีกมากมายที่จะพร้อมใช้งานใน VisionOS คุณสมบัติเหล่านี้เป็นการผสมผสานพลังของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Apple เข้าด้วยกัน พร้อมการใช้ประโยชน์จาก Apple silicon, ปัญญาประดิษฐ์ และการเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ เพื่อยกระดับคำมั่นสัญญาที่ Apple ยึดมั่นมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษในการออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน
“เราเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งว่านวัตกรรมมีพลังในการเปลี่ยนแปลงที่จะสามารถเติมเต็มชีวิตของผู้คนได้” Tim Cook, CEO ของ Apple กล่าว “นั่นเป็นเหตุผลที่ Apple สนับสนุนการออกแบบที่ครอบคลุมโดยการใส่ความสามารถด้านการเข้าถึงไว้ในแกนหลักของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาเป็นเวลาเกือบ 40 ปีแล้ว เรายังคงผลักดันขอบเขตของเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และคุณสมบัติใหม่ๆ เหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของเราในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้กับผู้ใช้ทุกคน”
"ในแต่ละปี เราได้สร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับการเข้าถึง" Sarah Herrlinger ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Global Accessibility Policy and Initiatives ของ Apple กล่าว “คุณสมบัติใหม่เหล่านี้จะสร้างผลกระทบให้กับชีวิตของผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม โดยการมอบวิธีใหม่ๆ ในการสื่อสาร การควบคุมอุปกรณ์ของพวกเขา และการใช้ชีวิตในโลกใบนี้”
การติดตามดวงตามาอยู่บน iPad และ iPhone แล้ว
การติดตามดวงตาซึ่งขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ ช่วยให้ผู้ใช้มีตัวเลือกบนอุปกรณ์ในการไปยังส่วนต่างๆ บน iPad และ iPhone ด้วยการใช้ดวงตาเพียงอย่างเดียว คุณสมบัตินี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายโดยเฉพาะ โดยผู้ใช้สามารถใช้กล้องหน้าในการตั้งค่าและปรับเทียบได้ภายในไม่กี่วินาที และด้วยความที่การเรียนรู้ของระบบจะเกิดขึ้นบนอุปกรณ์ของผู้ใช้ ข้อมูลทั้งหมดที่ใช้ในการตั้งค่าและควบคุมคุณสมบัตินี้จึงถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยบนอุปกรณ์และจะไม่มีการแชร์กับ Apple
การติดตามดวงตาใช้งานได้กับแอปฯ iPadOS และ iOS โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์เสริมใดๆ ผู้ใช้สามารถใช้การติดตามดวงตาเพื่อเลื่อนผ่านองค์ประกอบต่างๆ ของแอปฯ และใช้ Dwell Control หรือการควบคุมการอยู่นิ่งเพื่อเปิดใช้งานแต่ละองค์ประกอบ เข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม เช่น ปุ่มจริง การปัด และคำสั่งนิ้วอื่นๆ โดยใช้ดวงตาเพียงอย่างเดียว
Music Haptics ทำให้เสียงเพลงเข้าถึงได้มากขึ้น
Music Haptics ช่วยให้ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงบน iPhone ในรูปแบบใหม่ เมื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงนี้ Taptic Engine ใน iPhone จะเล่นการแตะ ผิวสัมผัส และการสั่นที่ได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับเสียงเพลง Music Haptics ใช้งานได้กับเพลงหลายล้านเพลงในแค็ตตาล็อก Apple Music และจะพร้อมใช้งานเป็น API สำหรับนักพัฒนาเพื่อทำให้เสียงเพลงเข้าถึงได้มากขึ้นในแอปฯ ของพวกเขา
คุณสมบัติใหม่สำหรับเสียงพูดหลากหลายแบบ
Vocal Shortcuts ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone และ iPad กำหนดคำสั่งเสียงพูดที่ Siri สามารถเข้าใจได้ในแบบของตัวเอง เพื่อเปิดใช้งานคำสั่งลัดและทำงานที่ซับซ้อนให้สำเร็จได้ Listen for Atypical Speech เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการปรับปรุงการจำเสียงพูดสำหรับรูปแบบเสียงพูดที่หลากหลาย โดย Listen for Atypical Speech จะใช้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ เพื่อจดจำรูปแบบเสียงพูดของผู้ใช้ คุณสมบัติเหล่านี้ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่มีอาการผิดปกติหรืออาการลุกลามซึ่งส่งผลต่อการพูด เช่น สมองพิการ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) หรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยจะช่วยยกระดับการปรับแต่งและการควบคุมของผู้ใช้ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากคุณสมบัติที่เปิดตัวไปใน iOS 17 สำหรับผู้ใช้ที่พูดไม่ได้หรือเสี่ยงต่อการสูญเสียความสามารถในการพูด
“ปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพในการปรับปรุงการจำเสียงพูดสำหรับผู้คนนับล้านที่มีเสียงพูดผิดปกติ เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่ Apple ได้นำคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใหม่ๆ เหล่านี้มาสู่ผู้บริโภค” Mark Hasegawa Johnson นักวิจัยหลักของโครงการ Speech Accessibility ที่ Beckman Institute for Advanced Science and Technology ประจำ University of Illinois Urbana-Champaign กล่าว"โครงการ Speech Accessibility เป็นความพยายามในวงกว้างที่ได้รับการสนับสนุนจากชุมชน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้บริษัทและมหาวิทยาลัยพัฒนาการจำเสียงให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ Apple ก็เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการช่วยการเข้าถึงที่ทำให้โครงการ Speech Accessibility เป็นจริงได้"
Vehicle Motion Cues สามารถช่วยลดภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถได้
Vehicle Motion Cues เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับ iPhone และ iPad ที่สามารถช่วยลดภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถสำหรับผู้โดยสารในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถมักเกิดจากความขัดแย้งทางประสาทสัมผัสระหว่างสิ่งที่บุคคลเห็นกับสิ่งที่พวกเขารู้สึก ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้บางรายไม่สามารถใช้งาน iPhone หรือ iPad ได้อย่างสะดวกขณะโดยสารยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ Vehicle Motion Cues จะแสดงจุดบนขอบหน้าจอที่จะขยับไปพร้อมๆ กับการเคลื่อนที่ของยานพาหนะ เพื่อช่วยลดความขัดแย้งทางประสาทสัมผัสโดยไม่รบกวนคอนเทนต์หลัก คุณสมบัตินี้จะใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งมาบน iPhone และ iPad จึงสามารถรับรู้ได้เมื่อผู้ใช้อยู่ในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่และจะตอบสนองผ่านหน้าจออย่างสอดคล้อง ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้คุณสมบัตินี้แสดงโดยอัตโนมัติบน iPhone หรือสามารถเปิดและปิดในศูนย์ควบคุมได้
CarPlay มาพร้อมการสั่งการด้วยเสียงและอัปเดตการช่วยการเข้าถึงเพิ่มเติม
คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่จะพร้อมใช้งานบน CarPlay ได้แก่ การสั่งการด้วยเสียง ฟิลเตอร์สี และการจำเสียง ผู้ใช้สามารถไปยังส่วนต่างๆ บน CarPlay และควบคุมแอปฯ ต่างๆ ได้โดยใช้แค่เสียงของพวกเขาด้วยคุณสมบัติการสั่งการด้วยเสียง ขณะที่ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินก็สามารถเปิดการแจ้งเตือนเพื่อรับแจ้งเตือนเสียงแตรรถและเสียงไซเรนด้วยคุณสมบัติการจำเสียง สำหรับผู้ใช้ที่ตาบอดสี ฟิลเตอร์สีจะทำให้อินเทอร์เฟซ CarPlay ใช้งานได้ง่ายขึ้น พร้อมคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงด้านการมองเห็นอื่นๆ ซึ่งรวมถึงข้อความตัวหนา
คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่จะพร้อมใช้งานใน VisionOS
คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่จะพร้อมใช้งานใน VisionOS ภายในปีนี้ รวมถึงคำบรรยายสดทั่วทั้งระบบที่จะช่วยให้ทุกคน รวมถึงผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยิน สามารถติดตามคำพูดในการสนทนาสดและเสียงจากแอปฯ ต่างๆ ได้ ขณะที่คำบรรยายสดสำหรับ FaceTime ใน VisionOS จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้จำนวนมากขึ้น ได้เพลิดเพลินกับประสบการณ์อันโดดเด่นในการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันโดยใช้ Persona ของตนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ Apple Vision Pro จะเพิ่มความสามารถในการย้ายคำบรรยายโดยใช้แถบหน้าต่างระหว่าง Apple Immersive Video เช่นเดียวกับการรองรับอุปกรณ์ช่วยฟัง Made for iPhone และตัวประมวลผลเสียงของประสาทหูเทียมเพิ่มเติม และการอัปเดตสำหรับการช่วยการเข้าถึงด้านการมองเห็นจะมาพร้อมคุณสมบัติลดความโปร่งใส, Smart Invert, และการทำให้แสงสว่างวาบมืดลงสำหรับผู้ใช้ที่มองเห็นไม่ชัดหรือผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงแสงจ้าและการกะพริบถี่ๆ
คุณสมบัติเหล่านี้จะเข้ามารวมกับคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงมากมายที่มีอยู่แล้วใน Apple Vision Pro เพื่อมอบระบบอินพุตที่ยืดหยุ่นและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายซึ่งออกแบบมาโดยคำนึงถึงกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลาย คุณสมบัติต่างๆ เช่น VoiceOver, ซูม, และฟิลเตอร์สียังช่วยให้ผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมองเห็นไม่ชัดสามารถเข้าถึงการประมวลผลเชิงมิติพื้นที่ได้ ในขณะที่คุณสมบัติต่างๆ เช่น การใช้งานเครื่องตามที่กำหนด สามารถรองรับการใช้งานของผู้ที่มีความบกพร่องทางการรับรู้ ผู้ใช้สามารถควบคุม Vision Pro ด้วยดวงตา มือ หรือเสียงแบบผสมผสานกัน โดยผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายสามารถใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง เช่น การควบคุมสวิตช์ การทำงานด้วยเสียง และการควบคุมการอยู่นิ่งได้
“Apple Vision Pro เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดเท่าที่ผมเคยใช้มาอย่างไม่ต้องสงสัย” Ryan Hudson-Peralta ผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ปรึกษาด้านการช่วยการเข้าถึง และผู้ร่วมก่อตั้ง Equal Accessibility LLC จากดีทรอยต์กล่าว “ในฐานะคนที่เกิดมาโดยไม่มีมือและเดินไม่ได้ ผมรู้ดีว่าโลกใบนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อผม ดังนั้น การได้เห็นว่า VisionOS ใช้งานได้จริงๆ จึงเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังและความสำคัญของการออกแบบที่เข้าถึงได้และคำนึงถึงทุกคน”
ข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติม
- สำหรับผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมองเห็นไม่ชัด VoiceOver จะมาพร้อมเสียงใหม่ๆ Voice Rotor หรือตัวหมุนเสียงพูดที่ยืดหยุ่น การควบคุมระดับเสียงแบบกำหนดเอง และความสามารถในการปรับแต่งคำสั่งลัดคีย์บอร์ด VoiceOver บน Mac
- แว่นขยาย จะนำเสนอโหมดตัวอ่านใหม่และตัวเลือกในการเปิดโหมดการตรวจจับได้อย่างง่ายดายด้วยปุ่มแอ็คชั่น
- ผู้ใช้อักษรเบรลล์จะมีวิธีใหม่ในการเริ่มต้นและอยู่ในโหมด การป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอ เพื่อการควบคุมและแก้ไขข้อความที่รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอยังรองรับภาษาญี่ปุ่น การป้อนอักษรเบรลล์แบบหลายบรรทัดด้วย Dot Pad และตัวเลือกในการเลือกตารางอินพุตและเอาต์พุตที่แตกต่างกันอีกด้วย
- สำหรับผู้ใช้ที่มองเห็นไม่ชัด Hover Typing จะแสดงตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้นเมื่อพิมพ์ในช่องข้อความ โดยสามารถแสดงในแบบอักษรและสีที่ผู้ใช้ต้องการได้
- สำหรับผู้ใช้ที่เสี่ยงต่อการสูญเสียความสามารถในการพูด คุณสมบัติ เสียงส่วนตัว จะพร้อมให้บริการในภาษาจีนกลางเร็วๆ นี้ และผู้ใช้ที่มีปัญหาในการออกเสียงหรืออ่านประโยคเต็มๆ จะสามารถสร้างเสียงส่วนตัวโดยใช้วลีที่สั้นลงได้
- สำหรับผู้ใช้ที่พูดไม่ได้ คุณสมบัติ เสียงพูดสด จะมาพร้อมหมวดหมู่ต่างๆ และรองรับการแสดงควบคู่ไปกับ คำบรรยายสด
- สำหรับผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย Virtual Trackpad สำหรับ AssistiveTouch จะช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมอุปกรณ์ของตนโดยใช้พื้นที่เล็กๆ ของหน้าจอเป็นแทร็คแพดที่ปรับขนาดได้
- การควบคุมสวิตช์ จะมีตัวเลือกในการใช้กล้องบน iPhone และ iPad เพื่อจดจำการใช้คำสั่งนิ้วในท่าทางต่างๆ แทนสวิตช์
- การควบคุมด้วยเสียง จะรองรับคำศัพท์แบบกำหนดเองและคำที่ซับซ้อน
เฉลิมฉลองวันตระหนักรู้ถึงการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม (Global Accessibility Awareness Day) กับ Apple
สัปดาห์นี้ Apple ขอแนะนำคุณสมบัติใหม่ๆ คอลเลคชั่นที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อเฉลิมฉลองวันตระหนักรู้ถึงการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม
- โดยตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ Apple Store ในบางสาขา จะจัดเซสชั่นฟรีเพื่อช่วยให้ลูกค้าสำรวจและค้นพบคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชื่นชอบ Apple Piazza Liberty ในมิลานจะนำเสนอผู้ที่อยู่เบื้องหลัง “Assume that I can" แคมเปญสุดไวรัลเนื่องในวันดาวน์ซินโดรมโลก และการสำรองที่นั่งแบบกลุ่มสำหรับ Today at Apple ซึ่งพร้อมให้บริการตลอดทั้งปีใน Apple Store ทั่วโลกทำให้ Apple Store กลายเป็นสถานที่ที่เพื่อน ครอบครัว โรงเรียน และชุมชน สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงร่วมกันได้
- คำสั่งลัด มาพร้อม Calming Sounds ซึ่งจะเล่นเสียงผ่อนคลายที่ช่วยสร้างเสริมบรรยากาศและลดสิ่งรบกวนสมาธิ เพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสกับสิ่งที่ต้องการหรือพักผ่อนหย่อนใจได้
- เข้าไปที่ App Store เพื่อสำรวจ แอปฯ และเกมอันน่าทึ่ง ที่ส่งเสริมการช่วยการเข้าถึงและคำนึงถึงผู้ใช้ทุกคน รวมถึงเกม Unpacking บน App Store ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนและมีรางวัลการันตี แอปฯ สำหรับเป็นเครื่องมือการสื่อสารทางเลือก (Augmentative and Alternative Communication: AAC) และอีกมากมาย
- แอปฯ Apple TV จะยกย่องนักสร้างสรรค์ผู้บุกเบิก นักแสดง และนักเคลื่อนไหวที่แบ่งปันประสบการณ์ของผู้พิการในด้านต่างๆ อย่างกระตือรือร้น โดยธีมของปีนี้คือ Remaking the World ซึ่งแต่ละเรื่องราวจะเชิญชวนให้ผู้ชมจินตนาการถึงโลกที่ทุกคนมีพลังในการสร้างเรื่องราวของความเป็นมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
- Apple Books จะเน้นย้ำถึงประสบการณ์ชีวิตที่เล่าผ่านมุมมองของผู้เขียนซึ่งเป็นผู้พิการในคอลเลคชั่นที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีในรูปแบบของ eBook และหนังสือเสียง
- การออกกำลังกาย การทำสมาธิ และเคล็ดลับของผู้ฝึกสอนบน Apple Fitness+ เป็นมิตรสำหรับผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินมากขึ้นด้วยภาษามืออเมริกัน และตอนนี้ คุณสมบัติถึงเวลาเดินก็มาพร้อมข้อความถอดเสียงในแอปฯ Apple Podcasts แล้ว การออกกำลังกายใน Fitness+ จะมาพร้อมคำอธิบายเสียง เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมองเห็นไม่ชัด ตลอดจนตัวปรับแต่งเพื่อให้ผู้ใช้ทุกระดับสามารถมีส่วนร่วมได้
- ผู้ใช้สามารถไปที่ บริการช่วยเหลือของ Apple เพื่อเรียนรู้วิธีปรับแต่งอุปกรณ์ Apple โดยใช้คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่มาพร้อมเครื่อง โดย เพลย์ลิสต์การช่วยการเข้าถึงของ Apple จะช่วยให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้วิธีการปรับแต่ง Apple Vision Pro, iPhone, iPad, Apple Watch และ Mac ในแบบที่เหมาะสมกับพวกเขาที่สุด ตั้งแต่การปรับการทำงานของคำสั่งนิ้วไปจนถึงการปรับแต่งวิธีนำเสนอข้อมูลบนหน้าจออุปกรณ์
แชร์บทความ
Media
-
เนื้อหาของบทความนี้
-
รูปภาพในบทความนี้