Safari และความเป็นส่วนตัว

Safari ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณและทำให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่คุณจะแชร์ได้


ใช้การตั้งค่า Safari เพื่อเอาข้อมูลออกและปิดกั้นข้อมูลที่เว็บไซต์สามารถใช้ติดตามคุณใน Safari ในการดูการตั้งค่าเหล่านี้ ให้ไปที่การตั้งค่า > แอป > Safari
ป้องกันการติดตามข้ามไซต์

เว็บไซต์บางเว็บใช้ผู้ให้บริการเนื้อหาของบริษัทอื่น ผู้ให้บริการเนื้อหาของบริษัทอื่นสามารถติดตามคุณในทุกเว็บไซต์เพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ได้

เมื่อเปิดใช้ตัวเลือกนี้อยู่ การติดตามข้อมูลจะถูกลบเป็นระยะ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะเข้าชมผู้ให้บริการเนื้อหาของบริษัทอื่น

ซ่อนที่อยู่ IP

การป้องกันการติดตามอัจฉริยะช่วยปกป้องคุณจากการติดตามที่ไม่ต้องการโดยใช้การเรียนรู้ด้วยเครื่องบนอุปกรณ์เพื่อหยุดตัวติดตามในระหว่างที่อนุญาตให้เว็บไซต์ทำงานตามปกติ การซ่อนที่อยู่ IP เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการติดตามอัจฉริยะโดยการส่งการรับส่งข้อมูลเว็บบางส่วนของคุณผ่านการเปลี่ยนเส้นทางการรับส่งข้อมูลสองครั้งด้วยผู้ส่งที่แยกกัน ผู้ส่งแรกจะทราบที่อยู่โปรโตคอลอินเทอร์เน็ต (IP) ของคุณ แต่ไม่ทราบเว็บไซต์ที่คุณกำลังเยี่ยมชม ผู้ส่งที่สองจะทราบเว็บไซต์ที่คุณกำลังเยี่ยมชมแต่ไม่ทราบที่อยู่ IP ของคุณ และจะให้ข้อมูลที่ระบุตัวตนและตำแหน่งที่ตั้งแบบทั่วไปสำหรับเว็บไซต์ปลายทาง ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครที่มีข้อมูลในการระบุตัวตนทั้งคุณและไซต์ที่คุณเยี่ยมชม

คุณสามารถเลือกที่จะส่งการรับส่งข้อมูลบางอย่างผ่านสถาปัตยกรรมการเปลี่ยนเส้นทางได้ ผู้สมัครรับ Private Relay สามารถเลือกที่จะส่งการรับส่งข้อมูลทั้งหมดผ่าน Private Relay ได้โดยไปที่การตั้งค่า > แอป > Safari > ซ่อนที่อยู่ IP แล้วแตะจากตัวติดตาม หรือผู้ใช้ทุกคนสามารถเลือกที่จะส่งการรับส่งข้อมูลกับตัวติดตามที่รู้จักผ่านสถาปัตยกรรมการเปลี่ยนเส้นทางได้โดยไปที่การตั้งค่า > แอป > Safari > ซ่อนที่อยู่ IP แล้วแตะจากตัวติดตาม คุณสามารถปิดใช้งานซ่อนที่อยู่ IP ได้ตลอดเวลาโดยไปที่การตั้งค่า > แอป > Safari > ซ่อนที่อยู่ IP แล้วแตะปิด

คำเตือนเว็บไซต์หลอกลวง

เมื่อเปิดใช้งานการเตือนเว็บไซต์หลอกลวง Safari จะแสดงการเตือนหากคุณเข้าชมเว็บไซต์ที่สงสัยว่าจะเป็นเว็บไซต์ฟิชชิ่ง ฟิชชิ่งคือการพยายามหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และข้อมูลบัญชีอื่นๆ เว็บไซต์หลอกลวงจะปลอมตัวเป็นเว็บไซต์ของจริง เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการอีเมล ก่อนที่จะเข้าชมเว็บไซต์ Safari อาจส่งข้อมูลที่คำนวณจากที่อยู่เว็บไซต์ไปที่การท่องเว็บอย่างปลอดภัยใน Google และไปที่ Apple เพื่อตรวจสอบว่าเว็บไซต์นั้นเป็นเว็บไซต์ที่หลอกลวงหรือไม่ สำหรับผู้ใช้ที่ตั้งค่าภูมิภาคเป็นจีนแผ่นดินใหญ่หรือฮ่องกงในการตั้งค่า > ทั่วไป > ภาษาและภูมิภาค Safari อาจยังใช้การท่องเว็บอย่างปลอดภัยใน Tencent เพื่อทำการตรวจสอบนี้ด้วย ที่อยู่เว็บไซต์จริงจะไม่ถูกแชร์กับผู้ให้บริการท่องเว็บอย่างปลอดภัย Google (และสำหรับผู้ใช้ที่ตั้งค่าภูมิภาคเป็นจีนแผ่นดินใหญ่หรือฮ่องกงใน Tencent) อาจยังเก็บบันทึกการใช้งานที่อยู่ IP ของคุณเมื่อมีข้อมูลส่งเข้ามาอีกด้วย คุณสามารถปิดใช้งานคำเตือนเว็บไซต์หลอกลวงใน Safari ได้ตลอดเวลาโดยไปที่การตั้งค่า > แอป > Safari แล้วแตะเพื่อปิดใช้คำเตือนเว็บไซต์หลอกลวง

การวัดประสิทธิภาพโฆษณาแบบรักษาความเป็นส่วนตัว

เมื่อเปิดใช้งานการวัดประสิทธิภาพโฆษณาแบบรักษาความเป็นส่วนตัว Safari จะมอบรายงานแหล่งที่มาให้กับเว็บไซต์เพื่อช่วยให้เว็บไซต์และนักโฆษณาระบุแหล่งที่มาการดูและการคลิกบนโฆษณาในระหว่างที่ยังคงปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ Safari จะส่งรายงานแหล่งที่มาพร้อมข้อมูลที่จำกัดในโหมดเฉพาะโดยใช้การปกป้องที่อยู่ IP ไม่มีการจัดเก็บข้อมูล ไม่มีคุกกี้ และเลื่อนการส่งรายงานออกไปแบบสุ่มระหว่าง 24 ถึง 48 ชั่วโมง รายงานแหล่งที่มาจะไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ

คุณสามารถปิดใช้งานการวัดประสิทธิภาพโฆษณาแบบรักษาความเป็นส่วนตัวได้ตลอดเวลาโดยไปที่การตั้งค่า > แอป > Safari > ขั้นสูง แล้วแตะเพื่อปิดใช้การวัดประสิทธิภาพโฆษณาแบบรักษาความเป็นส่วนตัว

การตรวจหา Apple Pay

เมื่อคุณอยู่ในแอปหรือบนเว็บไซต์ที่ใช้ Apple Pay บน iPhone, iPad, Apple Vision Pro หรือ Apple Watch แอปหรือเว็บไซต์จะสามารถตรวจสอบได้ว่าคุณเปิดใช้งาน Apple Pay บนอุปกรณ์นั้นหรือไม่ คุณสามารถปิดใช้งานไม่ให้เว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมตรวจสอบว่า Apple Pay ถูกเปิดใช้งานอยู่หรือไม่ได้ตลอดเวลาบนอุปกรณ์ iOS, iPadOS หรือ visionOS โดยไปที่การตั้งค่า > แอป > Safari > ขั้นสูง แล้วแตะเพื่อปิดใช้การตรวจหา Apple Pay

ท่องเว็บแบบส่วนตัว

เมื่อเปิดใช้งานการท่องเว็บแบบส่วนตัว Safari จะไม่จดจำหน้าที่คุณเข้าชม ข้อมูลป้อนอัตโนมัติ และจะไม่จัดเก็บแถบที่เปิดอยู่ของคุณไว้บน iCloud หรือเชื่อมข้อมูลบนอุปกรณ์ต่างๆ ของคุณ เว็บไซต์ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในอุปกรณ์ของคุณได้ ดังนั้นบริการต่างๆ ที่ปกติใช้ได้ที่เว็บไซต์ประเภทนี้อาจทำงานต่างออกไปจนกว่าคุณจะปิดใช้การท่องเว็บแบบส่วนตัว

หมายเหตุ: ในขณะที่เปิดใช้งานการท่องเว็บแบบส่วนตัว แถบที่อยู่จะแสดงเป็นสีเข้มแทนสีสว่าง

การแปลหน้าเว็บ

Safari วิเคราะห์แต่ละหน้าเว็บที่คุณเยี่ยมชมเพื่อระบุภาษา การระบุภาษานี้จะดำเนินการบนอุปกรณ์ทั้งเครื่องของคุณ ถ้าหน้าเว็บสามารถแปลเป็นภาษาใดภาษาหนึ่งที่คุณต้องการได้ คุณสามารถเลือกแปลภาษาได้ ถ้าคุณแปล Safari จะส่งเนื้อหาของหน้าเว็บ (รวมถึงข้อความฉบับเต็ม) ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Apple เพื่อแปลภาษา หลังจากแปลเสร็จแล้ว Apple จะทิ้งเนื้อหาของหน้าเว็บดังกล่าว

ถ้าคุณไม่ได้ดูหน้าเว็บในโหมดท่องเว็บแบบส่วนตัว Safari จะส่งที่อยู่ของหน้าเว็บให้กับ Apple ด้วย Apple จะจัดเก็บที่อยู่ดังกล่าวเป็นเวลาสูงสุดห้าปีเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีของ Apple เนื่องจาก Apple ไม่จัดเก็บเนื้อหาของหน้าเว็บที่คุณแปล เฉพาะหน้าเว็บที่สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะเท่านั้นที่จะถูกใช้เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และเทคโนโลยีของ Apple

เนื้อหาและที่อยู่หน้าเว็บที่ส่งไปที่ Apple จะไม่ผูกกับบัญชี Apple, ที่อยู่อีเมล หรือข้อมูลอื่นๆ ของคุณที่ Apple มีอยู่เนื่องจากการใช้บริการอื่นๆ ของ Apple

เพื่อมอบประสบการณ์การท่องอินเทอร์เน็ตที่ดียิ่งขึ้นให้กับคุณ หลังจากแปลหน้าเว็บแล้ว หน้าเว็บอื่นที่คุณเยี่ยมชมในโดเมนเดียวกันที่คุณเยี่ยมชมในแถบเดียวกันอาจได้รับการแปลด้วย Safari จะหยุดแปลโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเยี่ยมชมหน้าเว็บที่ไม่ได้อยู่ในภาษาดั้งเดิมเดียวกันหรือหน้าเว็บที่อยู่บนโดเมนอื่น

ไฮไลท์

ถ้าคุณเปิดใช้งานไฮไลท์ Safari จะตรวจจับข้อมูลที่เกี่ยวข้องบนหน้าเว็บโดยอัตโนมัติและไฮไลท์ข้อมูลในขณะที่คุณท่องเว็บ เมื่อเยี่ยมชมหน้าเว็บ Safari อาจส่งข้อมูลที่คำนวณจากที่อยู่หน้าเว็บไปที่ Apple ผ่าน OHTTP เพื่อพิจารณาว่ามีไฮไลท์ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เมื่อคุณเลือกไอคอนเมนูหน้าเพื่อดูไฮไลท์ที่เกี่ยวข้องสำหรับหน้าเว็บ Safari อาจส่งที่อยู่ของหน้าเว็บไปที่ Apple เพื่อให้ไฮไลท์ ข้อมูลทั้งหมดที่ส่งไปที่ Apple จะไม่ผูกกับบัญชี Apple, ที่อยู่อีเมล หรือข้อมูลอื่นๆ ของคุณที่ Apple มีอยู่เนื่องจากการใช้บริการอื่นๆ ของ Apple คุณสามารถเปิดใช้งานไฮไลท์ได้โดยไปที่การตั้งค่า > แอป > Safari > ไฮไลท์ แล้วแตะเพื่อเปิดใช้ไฮไลท์

ส่วนขยายเว็บ

คุณสามารถดาวน์โหลดส่วนขยายของ Safari ได้จาก App Store ถ้าอุปกรณ์ของคุณได้รับการจัดการ ผู้รับผิดชอบหรือสถาบันการศึกษาของคุณอาจให้แอปที่มีส่วนขยายของ Safari กับคุณ ก่อนใช้ส่วนขยายของ Safari คุณต้องเปิดใช้ส่วนขยายใน Safari หรือไปที่การตั้งค่า > Safari > ส่วนขยาย เมื่อเปิดใช้ คุณต้องให้สิทธิ์ส่วนขยายในการอ่านหรือแก้ไขหน้าเว็บที่คุณเยี่ยมชม คุณสามารถเปลี่ยนเว็บไซต์ที่จะให้ส่วนขยายสามารถอ่านและแก้ไขได้โดยไปที่การตั้งค่า > แอป > Safari > ส่วนขยาย

เมื่อคุณใช้ส่วนขยายเว็บของบริษัทอื่น คุณจะอยู่ภายใต้ข้อกำหนด นโยบายความเป็นส่วนตัว และแนวปฏิบัติของบริษัทอื่นเหล่านั้น คุณควรทบทวนข้อกำหนด นโยบายความเป็นส่วนตัว และวิธีปฏิบัติต่างๆ ของส่วนขยายนั้นๆ เพื่อให้เข้าใจว่าส่วนขยายเหล่านั้นจะนำข้อมูลของคุณไปใช้อย่างไร

การเชื่อมข้อมูล iCloud

คุณสามารถใช้ iCloud ในการเก็บข้อมูล Safari ที่เชื่อมข้อมูลบนอุปกรณ์ต่างๆ ของคุณ ซึ่งรวมถึงแถบที่เปิดอยู่ กลุ่มแถบ ข้อมูลป้อนอัตโนมัติ ที่คั่นหน้า รายการอ่าน และประวัติของคุณได้ คุณสามารถปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ได้ตลอดเวลาโดยไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > iCloud แล้วแตะเพื่อปิดใช้ Safari

โดยการใช้คุณสมบัติเหล่านี้จะถือว่า คุณยอมรับและยินยอมกับการส่งข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล การบำรุงรักษาข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และการใช้ข้อมูลนี้ที่อธิบายข้างต้นของ Apple, บริษัทในเครือ และตัวแทน

การเก็บบันทึกข้อมูล

Apple จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลานานตราบเท่าที่จำเป็นเท่านั้นเพื่อให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของการรวบรวมข้อมูล รวมถึงตามที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple หรือในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเฉพาะบริการของเรา หรือตามที่กฎหมายกำหนด ในการประเมินระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูล ก่อนอื่น เราจะตรวจสอบอย่างรอบคอบว่ามีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่รวบรวมมาหรือไม่ หากต้องมีการเก็บรักษา จะมีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ตามที่กฎหมายอนุญาต

ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดย Apple จะได้รับการปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple เสมอ ซึ่งสามารถดูได้ที่ www.apple.com/th/privacy

วันที่เผยแพร่: 20 กันยายน 2024