-
Apple Music และความเป็นส่วนตัว
-
การค้นหา การเลือกหา การซื้อ และคะแนนความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์ของคุณจะช่วยปรับปรุงบริการและป้องกันการโจรกรรมได้ ถ้าคุณสมัครรับ เรายังจะใช้คลังเพลงของคุณและสิ่งที่คุณเล่นเพื่อปรับประสบการณ์ให้เข้ากับตัวคุณและส่งการแจ้งเตือนให้คุณอีกด้วย อาจใช้หมายเลขประจำเครื่องของอุปกรณ์ของคุณเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับข้อเสนอหรือไม่
Apple Music ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลของคุณและทำให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่คุณต้องการแชร์ได้
-
- Apple เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรม Apple Music และ Apple Music Classical ของคุณ เช่น เพลงที่คุณเปิดและระยะเวลาที่คุณเปิดเพลงเหล่านั้น เพื่อปรับแต่งบริการในระหว่างที่คุณสมัครรับ ส่งการแจ้งเตือนให้กับคุณ และชดเชยให้แก่คู่ค้าของเรา
- คลังบนคลาวด์ Apple ของคุณจะส่งข้อมูลจากคลังเพลงบนอุปกรณ์ของคุณไปที่ Apple เช่น เพลงและชื่อศิลปิน เพื่อระบุและปลดล็อคสำเนาเพลงต่างๆ ของคุณที่มีใน Apple Music เช่นกัน
- เราผูกข้อมูลคลังบนคลาวด์ของคุณเข้ากับคุณตราบเท่าที่คุณยังคงสมัครใช้บริการและเพียงช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากนั้น เราเก็บบันทึกเพลงต่างๆ ที่คุณเล่นเป็นระยะเวลาตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแจ้งทางด้านการเงิน
- ในการช่วยระบุและป้องกันการโจรกรรม ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้งานอุปกรณ์ของคุณ รวมถึงจำนวนสายโทรหรืออีเมลที่คุณส่งและรับโดยประมาณจะถูกใช้เพื่อคำนวณคะแนนความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์เมื่อคุณพยายามซื้อสินค้า การส่งข้อมูลนี้ถูกออกแบบมาให้ Apple ไม่สามารถเรียนรู้มูลค่าที่แท้จริงของอุปกรณ์ของคุณได้ คะแนนจะถูกจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ของเราเป็นระยะเวลาตายตัว
การปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลของคุณนับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนที่ Apple ยึดถือ เราทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณให้ดีขึ้น และเมื่อเราเก็บรวบรวมข้อมูล เราเชื่อว่าการทราบว่าเรากำลังเก็บข้อมูลใดและเพราะอะไรเราจึงต้องการข้อมูลนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้จากการได้รับข้อมูลที่เพียงพอ Apple Music และ Apple Music Classical นั้นก็เช่นเดียวกันกับผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ จาก Apple ที่ได้รับการออกแบบมาโดยยึดหลักการเหล่านี้
เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในการให้บริการและคุณสมบัติต่างๆ ใน Apple Music ข้อมูลนี้รวมถึงชื่อและรูปภาพบัญชี Apple ของคุณหากคุณได้ตั้งไว้ ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงและเปลี่ยนได้ในการตั้งค่าแอปเพลงเพื่อใช้กับคุณสมบัติการแชร์ใน Apple Music รวมทั้งบัญชีและข้อมูลการชำระเงิน ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงและเปลี่ยนได้ในการตั้งค่าหรือการตั้งค่าระบบ
เมื่อคุณสมัครใช้บริการ Apple Music การสมัครใช้บริการของคุณจะรวมถึงการเข้าถึง Apple Music และ Apple Music Classical แบบทั้งหมด Apple จะเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน Apple Music และ Apple Music Classical ของคุณเพื่อปรับแต่งแล้วนำเสนอคุณสมบัติต่างๆ ให้ตรงกับรสนิยมด้านดนตรีของคุณ คุณสมบัติเหล่านี้ได้แก่ รายการแนะนำสำหรับคุณโดยเฉพาะ เช่น อัลบั้มและเพลย์ลิสต์ต่างๆ ที่เลือกมาให้สำหรับคุณ และวิทยุ ซึ่งจะเล่นเพลงที่คัดสรรมาจากศิลปินและแนวเพลงโปรดของคุณ เรายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อให้เราสามารถติดต่อคุณได้ทางอีเมลและการแจ้งเตือนแบบผลักข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลเรื่องการออกผลงานเพลงที่กำลังจะออก ศิลปินหน้าใหม่ และสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบน Apple Music และ Apple Music Classical ที่คุณอาจสนใจ
คุณสมบัติบางประการของ Apple Music เช่น สถานีวิทยุบางสถานี อาจไม่มีในภูมิภาคของคุณ Apple อาจใช้ที่อยู่ IP ของการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณเพื่อประมาณตำแหน่งที่ตั้งของคุณและตรวจสอบว่ามีให้ใช้งานได้หรือไม่
Apple Music Classical
ผู้สมัครใช้บริการ Apple Music สามารถเข้าถึง Apple Music Classical ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันเพลงคลาสสิกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณค้นพบแทร็กและอัลบั้มคลาสสิก และบันทึกแทร็กคลาสสิกที่คุณชื่นชอบไว้ในที่เดียวได้ คุณสามารถเลือกหาแค็ตตาล็อก Apple Music Classical ได้โดยไม่ต้องสมัครใช้บริการ แต่คุณต้องสมัครใช้บริการ Apple Music เพื่อให้เข้าถึงคุณสมบัติทั้งหมดของ Apple Music Classical ได้ ถ้าคุณไม่มีการสมัครใช้บริการ Apple Music ที่ใช้งานอยู่ คุณจะได้รับตัวเลือกในการสมัครใช้บริการ Apple Music เพื่อรับการเข้าถึง Apple Music Classical แบบทั้งหมด
คลังบนคลาวด์
คลังบนคลาวด์ Apple ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ของการสมัครใช้บริการ Apple Music จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเพลงและเพลย์ลิสต์ในคลังของคุณได้จากทุกอุปกรณ์ของคุณ คุณสมบัตินี้จะส่งข้อมูลจากคลังบนอุปกรณ์ของคุณ เช่น ชื่อเพลงและชื่อศิลปิน ไปที่ Apple เพื่อระบุและปลดล็อคเพลงใดๆ ของคุณที่มีใน Apple Music และ Apple Music Classical เช่นกัน เพลงใดๆ ที่ไม่พบใน Apple Music จะถูกอัปโหลดไปยังคลังบนคลาวด์ส่วนบุคคลของคุณเพื่อให้คุณเข้าถึงคอลเลกชั่นของคุณได้ครบสมบูรณ์จากทุกอุปกรณ์ของคุณผ่าน Apple Music ในการหยุดเชื่อมข้อมูลคลังบนคลาวด์ของคุณบนอุปกรณ์ iOS, iPadOS หรือ visionOS ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > แอป > เพลง แล้วแตะเพื่อปิดใช้คลังเชื่อมข้อมูล บน Mac ให้เปิด Apple Music แล้วไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป จากนั้นเลิกเลือกคลังเชื่อมข้อมูล
โปรไฟล์ Apple Music
ถ้าคุณต้องการพูดคุยหรือแชร์กับผู้อื่นโดยใช้ Apple Music คุณก็สามารถสร้างโปรไฟล์ส่วนบุคคลได้โดยการให้ข้อมูลประจำตัวผู้ใช้ (เช่น @johnappleseed) ชื่อที่แสดง และอาจให้รูปภาพโปรไฟล์ และข้อมูลอื่นๆ มาด้วยก็ได้หากคุณต้องการ Apple จะจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ในบัญชีของคุณเพื่อให้คุณเข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ของคุณ ข้อมูลประจำตัวผู้ใช้ ชื่อที่แสดง และรูปภาพโปรไฟล์สามารถแสดงพร้อมเนื้อหาใดๆ ที่คุณโพสต์และกิจกรรมที่คุณแชร์บน Apple Music ได้ การแชร์และการโพสต์เนื้อหาไม่ได้ออกแบบมาและไม่ต้องการให้ใช้กับบัญชี Apple สำหรับเด็ก
คนอื่นอาจสามารถค้นหาโปรไฟล์ Apple Music ของคุณได้โดยใช้ข้อมูลที่คุณให้
คุณสามารถสร้างเนื้อหาของโปรไฟล์ของคุณ เช่น กิจกรรมการฟังเพลง และเพลย์ลิสต์ และสามารถให้ผู้คนที่คุณเลือกเท่านั้นเห็นได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลโปรไฟล์ของคุณ เช่น ข้อมูลประจำตัว ชื่อที่แสดง รูปภาพ คนที่ติดตามคุณ และคนที่คุณติดตาม ทุกคนจะสามารถเห็นได้ตามค่าเริ่มต้น ในการปิดกั้นผู้ใช้ไม่ให้มองเห็นโปรไฟล์ของคุณ ให้ไปที่โปรไฟล์ของผู้ใช้ แล้วแตะเพิ่มเติม จากนั้นแตะปิดกั้น ผู้คนที่คุณปิดกั้นจะไม่เห็นเพลงของคุณหรือค้นหาโปรไฟล์ของคุณใน Apple Music ได้
เมื่อคุณสร้างโปรไฟล์บน Apple Music เราจะแนะนำผู้สมัครใช้บริการ Apple Music คนอื่นๆ ที่คุณอาจต้องการเชื่อมต่อเป็นเพื่อน Apple ไม่ได้เรียนรู้หรือจัดเก็บข้อมูลจากรายชื่อของคุณเมื่อตรวจหาเพื่อนที่จะแนะนำ โดยมีเพียงแฮชของเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่อีเมลในรายชื่อของคุณที่ย่อและเข้ารหัสแล้วเท่านั้นที่จะถูกส่งไปที่ Apple จากนั้นจะทำการพิจารณาการจับคู่ผู้สมัครใช้บริการ Apple Music ที่จะแนะนำภายในอุปกรณ์ของคุณ Apple Music สามารถตรวจสอบรายชื่อของคุณเป็นระยะๆ เพื่อแนะนำเพื่อนใหม่ๆ ให้แก่คุณในอนาคต คุณสามารถควบคุมคุณสมบัตินี้ได้ด้วยการปิดใช้งาน “รายชื่อบน Apple Music” ในการตั้งค่าบัญชี ถ้าคุณไม่ต้องการให้คนอื่นที่มีข้อมูลติดต่อบัญชี Apple เกี่ยวกับคุณในรายชื่อของพวกเขาเห็นคุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้ได้ในการตั้งค่าบัญชีโดยการปิดใช้งานอนุญาตการค้นหาโดยบัญชี Apple
คุณสามารถอัปเดตหรือเอาข้อมูลที่คุณให้ไว้ในโปรไฟล์ออกได้ตลอดเวลา เมื่อคุณแชร์ข้อมูลออกไปที่โลกออนไลน์ คุณควรคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะเผยแพร่ต่อสาธารณะ เมื่อคุณแชร์จาก Apple Music ไปที่เว็บไซต์หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่นๆ สิ่งใดๆ ที่คุณแชร์จะถูกกำกับตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริการอื่นๆ เหล่านั้น
SharePlay
เมื่อคุณสมัครใช้บริการ Apple Music คุณสามารถเป็นโฮสต์เซสชั่น SharePlay เมื่อเชื่อมต่อกับ Apple TV, HomePod, CarPlay หรือเมื่อใช้บลูทูธได้ เมื่อใช้ SharePlay ผู้สมัครใช้บริการ Apple Music รายอื่นสามารถเข้าร่วมเซสชั่น SharePlay ของคุณและสามารถควบคุมเพลงที่เล่นผ่าน Apple Music ได้ SharePlay ยังช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครใช้บริการ Apple Music สามารถเข้าร่วมเซสชั่น SharePlay ของคุณได้อีกด้วย Apple ใช้บลูทูธ หากเปิดใช้งานอยู่บนอุปกรณ์ของคุณ เพื่ออนุญาตให้รายชื่อที่อยู่ใกล้เคียงของคุณค้นพบเซสชั่น Apple Music ของคุณและขอเข้าร่วมเซสชั่นได้ ถ้าคุณไม่ต้องการให้รายชื่อสามารถค้นพบอุปกรณ์ของคุณและขอเข้าร่วมเซสชั่น Apple Music ของคุณได้ คุณสามารถปิดใช้ความสามารถในการค้นพบโดยรายชื่อที่อยู่ใกล้เคียงได้ในการตั้งค่าแอปเพลง รายชื่อ รวมถึงผู้เข้าร่วมคนอื่นยังสามารถเข้าร่วมเซสชั่นโดยการสแกนคิวอาร์โค้ดที่แสดงอยู่ในการตั้งค่าแอปเพลงหรืออินเทอร์เฟซยานพาหนะได้อีกด้วยหากเข้าร่วมในเซสชั่น SharePlay ในรถ
ทุกคนในเซสชั่นจะสามารถมองเห็นชื่อและรูปภาพโปรไฟล์ของผู้เข้าร่วมในเซสชั่นได้ การมีส่วนร่วมเซสชั่น SharePlay จะถือว่ามาจากแต่ละคนที่ได้มีส่วนร่วมและจะผูกกับชื่อและรูปภาพโปรไฟล์ของผู้ใช้รายนั้น หากมี ซึ่งสามารถแก้ไขได้ตลอดเวลาในการตั้งค่าแอปเพลง คุณสามารถเอาผู้เข้าร่วมออกจากเซสชั่น SharePlay ที่คุณเป็นโฮสต์ออกได้โดยแตะไอคอน SharePlay ในแอปเพลง แล้วเลือกผู้เข้าร่วมที่จะเอาออก ในการออกจากเซสชั่น SharePlay ให้แตะไอคอน SharePlay ในแอปเพลง แล้วแตะออก ในการสิ้นสุดเซสชั่น SharePlay ที่คุณเป็นโฮสต์ ให้แตะสิ้นสุดในแอปเพลง Apple จะไม่เก็บบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อของคุณหรือผู้เข้าร่วมคนอื่นที่ได้เข้าร่วมเซสชั่น SharePlay หลังเซสชั่นสิ้นสุดลง
คุณยังสามารถเปิดใช้งานเซสชั่น SharePlay ในข้อความหรือระหว่างการโทร FaceTime เพื่อแชร์เพลงแบบเชื่อมข้อมูลกับคนอื่นได้ ในการเริ่มเซสชั่น ให้เลือกเพลงที่คุณต้องการฟัง แล้วแตะ SharePlay ในตัวเลือกเพลง ป้อนรายชื่อที่จะแชร์ด้วย จากนั้นแตะ “ข้อความ” หรือ “FaceTime” และเริ่ม
ใช้งานร่วมกันบนเพลย์ลิสต์
ผู้สมัครใช้บริการ Apple Music สามารถสร้างและใช้งานร่วมกันบนเพลย์ลิสต์กับผู้สมัครใช้บริการ Apple Music คนอื่นๆ ได้ ถ้าคุณเป็นผู้สร้างเพลย์ลิสต์ คุณสามารถเลือกเพื่ออนุญาตแต่ละคนที่เข้าร่วมเพลย์ลิสต์ หรือคุณสามารถอนุญาตให้ทุกคนที่มีลิงก์มายังเพลย์ลิสต์เข้าร่วมโดยอัตโนมัติได้ ผู้เข้าร่วมทุกคนสามารถเพิ่มและเอาเพลงออกจากเพลย์ลิสต์และเพิ่มการโต้ตอบด้วยอิโมจิได้ การมีส่วนร่วมจะถือว่ามาจากแต่ละคนที่ได้มีส่วนร่วมและจะผูกกับชื่อและรูปภาพโปรไฟล์ของผู้ใช้รายนั้น หากมี ซึ่งสามารถแก้ไขได้ตลอดเวลาในการตั้งค่าแอปเพลง ผู้เข้าร่วมทุกคนในเพลย์ลิสต์ และทุกคนที่มีสิทธิ์เข้าถึงเพลย์ลิสต์จะสามารถดูและมองเห็นชื่อและรูปภาพของผู้เข้าร่วมคนอื่นได้ ผู้เข้าร่วมเพลย์ลิสต์สามารถดูเพลงและการโต้ตอบทั้งหมดที่ผู้เข้าร่วมคนอื่นเพิ่มได้ ในการหยุดการใช้งานร่วมกัน ให้เอาตัวเองออกจากเพลย์ลิสต์ในการตั้งค่าเพลย์ลิสต์ หรือถ้าคุณเป็นผู้สร้าง ให้หยุดการใช้งานร่วมกันในการตั้งค่าจัดการการใช้งานร่วมกันของเพลย์ลิสต์ ถ้าผู้สร้างเพลย์ลิสต์สิ้นสุดการใช้งานร่วมกัน เพลย์ลิสต์จะกลายเป็นเพลย์ลิสต์ที่แชร์ซึ่งผู้ใช้งานร่วมจะสามารถเข้าถึงได้ในคลัง Apple Music ของเขา
การปรับแต่งและการปรับปรุง Apple Music และ Apple Music Classical
เมื่อคุณใช้การสมัครใช้บริการ Apple Music ของคุณหรือเล่นเนื้อหาฟรีนอกเหนือจากในคลังของคุณ เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเพลงและวิดีโอ (หากมี) ที่คุณเล่นหรือเพิ่มไปยังคลังเพลงหรือเพลย์ลิสต์ของคุณและศิลปินและเนื้อหาที่คุณชอบหรือแชร์ ข้อมูล เช่น บัญชี, ที่อยู่ IP, อุปกรณ์, แอป หรืออุปกรณ์บนรถยนต์ที่คุณใช้เพื่อเล่นเพลง สถานที่ที่คุณใช้ Apple Music หรือ Apple Music Classical เวลาและระยะเวลาที่คุณเล่นเพลงจะถูกบันทึกและส่งไปที่ Apple เราใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ของคุณ เพื่อส่งอีเมลและการแจ้งเตือนให้กับคุณ และเพื่อช่วยให้เราเข้าใจการใช้งาน Apple Music และ Apple Music Classical ของคุณและจะได้ปรับปรุงบริการของเราต่อไป ตัวอย่างเช่น ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้เราเลือกเพลง วิดีโอ และโพสต์ของศิลปินที่เราแสดงให้คุณเห็นใน Apple Music และ Apple Music Classical ได้ นอกจากนี้ ยังช่วยให้เราสร้างรายการแนะนำอื่นที่สะท้อนถึงรสนิยมของคุณ สร้างอันดับเพลงประจำเมืองเพื่อแสดงเพลงยอดนิยมของเมือง และเพื่อให้ผลการค้นหา Apple Music สำหรับคุณโดยเฉพาะโดยใช้การผสมข้อมูล เช่น ประวัติการฟังของคุณและประเภทที่คุณชื่นชอบ เรายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อชำระค่าลิขสิทธิ์ และป้องกันหรือเข้าดำเนินการกับกิจกรรมที่ขัดกับหรืออาจขัดกับข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริการ Apple Media หรือกฎหมายที่บังคับใช้อีกด้วย
เราเก็บบันทึกข้อมูลนี้ตลอดระยะเวลาการสมัครใช้บริการ Apple Music ของคุณและหลังจากนั้นเป็นระยะเวลาสูงสุดสองปีเพื่อสื่อสารกับคุณเกี่ยวกับเพลงที่คุณอาจสนใจและข้อเสนอที่คุณอาจเข้าเกณฑ์ เรายังเก็บบันทึกข้อมูลนี้ด้วยในกรณีที่มีความจำเป็นสำหรับการแจ้งทางด้านการเงินเป็นระยะเวลาตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแจ้งข้อมูลดังกล่าวที่แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ที่ต้องเก็บบันทึกข้อมูลเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 10 ปี แต่ในภูมิภาค เช่น ประเทศจีน การเก็บบันทึกข้อมูลอาจมีระยะเวลา 30 ปี
ถ้าคุณใช้ SharePlay เพื่อฟังเนื้อหากับผู้ใช้คนอื่นบน Apple Music แอปเพลงจะเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาที่คุณฟังในระหว่างเซสชั่น SharePlay และจำนวนผู้เข้าร่วมในเซสชั่นโดยประมาณ แต่จะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลใดๆ ที่จะระบุผู้เข้าร่วมเซสชั่น SharePlay
เรายังใช้ข้อมูลการค้นหาของ Apple Music เพื่อปรับปรุงโมเดลที่ใช้ในการทำงานของ Apple Music อีกด้วย ตัวอย่างเช่น คำถามการค้นหาโดยรวมของ Apple Music ถูกใช้เพื่อปรับโมเดลการค้นหาของ Apple Music อย่างละเอียด
การสื่อสารกับคุณ
Apple อาจใช้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของคุณ เช่น ผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่คุณเป็นเจ้าของ แอปของ Apple ที่คุณดาวน์โหลด และการสมัครใช้บริการต่างๆ ของ Apple เพื่อสื่อสารกับคุณเกี่ยวกับ Apple Music รวมถึงผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อเสนออื่นๆ ของ Apple ที่คุณอาจสนใจ ซึ่งรวมถึง Apple Music Classical และ Apple One ด้วย อาจใช้หมายเลขประจำเครื่องของอุปกรณ์และข้อมูลจำเพาะอื่นของฮาร์ดแวร์ของคุณ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัครใช้บริการ App Store ที่เกี่ยวข้องของคุณเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับบริการที่นำเสนอของ Apple หรือไม่ ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มการแชร์กันในครอบครัว Apple อาจสื่อสารกับคุณเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อเสนอที่มีให้คุณผ่านการแชร์กันในครอบครัว ถ้าคุณซื้อการสมัครใช้บริการ Apple One เราอาจส่งอีเมลและการแจ้งเตือนแบบผลักข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของบริการแต่ละรายการที่คุณสมัครใช้บริการ Apple ยังอาจใช้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของคุณภายใน Apple Music และ Apple Music Classical และการโต้ตอบของคุณกับบริการที่ใช้เพื่อตรวจสอบยืนยันสิทธิ์สำหรับการสมัครรับ Apple Music ที่มีส่วนลดที่มี (เช่น Apple Music แบบนักศึกษา) เพื่อส่งอีเมลและการแจ้งเตือนแบบผลักข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติใหม่ เนื้อหา และข้อเสนอที่มีใน Apple Music และ Apple Music Classical ให้คุณ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าอีเมลของคุณและเลือกไม่รับอีเมลเหล่านี้ได้โดยไปที่ account.apple.com ในการอัปเดตการตั้งค่าการแจ้งเตือนของคุณบนอุปกรณ์ iOS, iPadOS หรือ visionOS ของคุณ ให้ไปที่การตั้งค่า > การแจ้งเตือน > เพลง บน Mac ให้เปิด Apple Music แล้วไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > การแจ้งเตือน Apple ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับการโต้ตอบของคุณที่มีต่อการสื่อสารของเราซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อปรับปรุงบริการของเรา
การป้องกันการโจรกรรมและกิจกรรมอื่นที่ประสงค์ร้าย
เราคำนวณคะแนนความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์บนอุปกรณ์ของคุณเมื่อคุณพยายามซื้อสินค้า โดยใช้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้งานอุปกรณ์ของคุณ รวมถึงจำนวนสายโทรหรืออีเมลที่คุณส่งและรับโดยประมาณ การส่งข้อมูลนี้ถูกออกแบบมาให้ Apple ไม่สามารถเรียนรู้ค่าที่ซ่อนอยู่ของอุปกรณ์ของคุณได้ คะแนนจะถูกจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ของเราเป็นระยะเวลาตายตัว Apple อาจใช้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความสัมพันธ์ทางธุรกิจของคุณกับ Apple เพื่อประมวลผลการต่ออายุการสมัครใช้บริการ Apple Music และตัดสินใจว่าจะมอบการเข้าถึงการสมัครใช้บริการของคุณอย่างต่อเนื่องก่อนได้รับการรับรองความถูกต้องโดยพันธมิตรการชำระเงินหรือไม่
การเปิดเผยต่อบุคคลหรือบริษัทอื่น
สถานีวิทยุ
เมื่อคุณใช้ Apple Music เพื่อฟังวิทยุที่ออกอากาศ อุปกรณ์ของคุณจะเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีวิทยุที่ออกอากาศเพื่อส่งมอบเนื้อหาที่คุณร้องขอ ขณะที่เชื่อมต่อ สถานีวิทยุที่ออกอากาศจะสามารถเห็นที่อยู่ IP ของอุปกรณ์ของคุณได้ การจัดการที่อยู่ IP โดยสถานีวิทยุที่ออกอากาศจะอยู่ภายใต้การกำกับของนโยบายความเป็นส่วนตัวของสถานีวิทยุที่ออกอากาศหรือผู้ให้บริการค่ายเพลง ศิลปิน และตัวรวบรวมอันดับยอดนิยม
เรามีพันธะต้องให้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมสะสมบางส่วนที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของคุณได้เกี่ยวกับการใช้ Apple Music และ Apple Music Classical รวมถึงข้อมูลประชากรของผู้ใช้ที่เก็บรวบรวมสะสม เช่น กลุ่มอายุและเพศ (ซึ่งอาจมาจากข้อมูล เช่น ชื่อและคำขึ้นต้นในบัญชี Apple ของคุณ) กับค่ายเพลง ผู้เผยแพร่ และศิลปิน เพื่อให้สามารถวัดค่าประสิทธิภาพของงานสร้างสรรค์ของพวกเขา และเป็นไปตามข้อตกลงเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และการทำบัญชี นอกจากนี้ เราแชร์กิจกรรมการรับฟังที่รวบรวมสะสมโดยใช้ตัวรวบรวมอันดับยอดนิยมเพื่อจัดอันดับเพลงยอดนิยมทั่วโลก โดยใช้ค่ายเพลงและศิลปินเพื่อวัดการมีส่วนร่วมรวมถึงในแบบเรียลไทม์ และโดยใช้แพลตฟอร์มทางการตลาดเพลงที่ช่วยให้ค่ายเพลงและศิลปินสามารถเข้าถึงผู้รับฟังได้ ในการพิจารณาสิทธิ์การสมัครใช้บริการของคุณหากคุณสมัครใช้บริการ Apple Music ผ่านคู่ค้าอื่น เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือในการดำเนินการซื้อสินค้าของคุณ เราจะแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวตนได้แบบจำกัดกับคู่ค้านั้นการเชื่อมต่อ Apple Music กับแอปอื่น
แอป iOS, iPadOS และ visionOS และแอปบนแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ของ Apple อาจขอการเข้าถึง Apple Music และคลังบนคลาวด์ของคุณ ถ้าคุณให้สิทธิ์กับแอป แอปนั้นจะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ เช่น คลังบนคลาวด์ของคุณบนอุปกรณ์ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้สมัครใช้บริการ Apple Music หรือไม่ กิจกรรมการเล่นเพลงและวิดีโอของคุณ และรายการแนะนำของคุณใน Apple Music แอปที่ได้รับอนุญาตยังสามารถแก้ไขข้อมูลที่ผูกกับบัญชีของคุณได้อีกด้วย เช่น เพลงที่อยู่ในคลังและเพลย์ลิสต์ของคุณ ถ้าคุณให้สิทธิ์แอปรูปภาพให้เข้าถึง Apple Music ได้ แอปรูปภาพจะใช้เพลงจาก Apple Music เพื่อเล่นกับภาพยนตร์ความทรงจำ เมื่อคุณสร้างภาพยนตร์ความทรงจำแบบกำหนดเองในแอปรูปภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับการเขียนที่คุณป้อนเพื่อสร้างความทรงจำอาจถูกส่งไปที่ Apple Music เพื่อเลือกเพลงที่จะเล่นกับภาพยนตร์ แอปของ Apple ที่มีเนื้อหาที่รองรับ เช่น รีโมท จะเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเริ่มต้นใช้แอปเพลงและเนื้อหาที่รองรับอีกด้วย คุณสามารถปิดใช้งานการเข้าถึงของแอปได้บนอุปกรณ์ iOS, iPadOS หรือ visionOS ของคุณโดยไปที่การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > สื่อและ Apple Music บน Mac ให้ไปที่การตั้งค่าระบบ > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > ความเป็นส่วนตัว > สื่อและ Apple Music ถ้าคุณเอาแอปออกหรือให้สิทธิ์การเข้าถึงกับแอปโดยใช้ iOS เวอร์ชั่นก่อนหน้า iOS 11 หรือ iPadOS คุณจะสามารถปิดใช้งานการเข้าถึงของแอปได้ในการตั้งค่าบัญชี Apple Music ของคุณ
การสมัครใช้บริการ Apple Music ผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของคุณ
ถ้าผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของคุณเสนอการสมัครใช้บริการ Apple Music และการทดลองใช้ฟรีให้กับคุณ Apple อาจตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนยันว่าคุณเข้าเกณฑ์ผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ถ้าคุณลงทะเบียนสมัครใช้บริการ Apple Music หรือการทดลองใช้ฟรีผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ของคุณหรือคู่ค้ารายอื่นของ Apple ไว้ Apple จะใช้เบอร์โทรศัพท์ของคุณหรือข้อมูลจำเพาะบัญชีที่ไม่ซ้ำกันที่แชร์โดยคู่ค้าเพื่อระบุบัญชีของคุณ และเพื่อแจ้งให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์หรือคู่ค้ารายอื่นทราบว่าคุณได้เปิดใช้งานการสมัครใช้บริการของคุณแล้ว เราจะใช้เบอร์โทรศัพท์หรือข้อมูลจำเพาะที่ไม่ซ้ำกันที่ผูกกับการสมัครใช้บริการของคุณเพื่อตรวจสอบยืนยันบัญชีของคุณในระหว่างที่คุณลงชื่อเข้าและเพื่อเชื่อมต่อกิจกรรม Apple Music ของคุณกับบัญชีของคุณ เรายังใช้เบอร์โทรศัพท์ของคุณเพื่อขอยกเลิกการสมัครใช้บริการของคุณกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ตามที่คุณร้องขออีกด้วย
พื้นฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณใน Apple Music โดยทั่วไปเพื่อปฏิบัติตามสัญญาของคุณกับ Apple ตามความจำเป็นในการให้บริการ และเพื่อให้เป็นไปตามภาระผูกพันตามกฎหมายของเรา ในกรณีที่ความยินยอมเป็นพื้นฐานทางกฎหมายที่เหมาะสม เราขอความยินยอมตามที่กฎหมายท้องถิ่นกำหนด
ถ้ากฎหมายในท้องถิ่นที่บังคับใช้กำหนด เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความจำเป็นเพื่อจุดประสงค์ด้านผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือเพื่อจุดประสงค์ของบุคคลหรือบริษัทอื่นเพื่อ:
- ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาใน Apple Music และ Apple Music Classical ที่คุณฟัง เพิ่มเนื้อหาไปยังคลังของคุณ หรือดาวน์โหลดเนื้อหาได้
- ปรับแต่งให้เข้ากับประสบการณ์การใช้งานของคุณใน Apple Music และ Apple Music Classical
- ระบุและปลดล็อคสำเนาเพลงต่างๆ ของคุณที่มีใน Apple Music เช่นกัน
- กำหนดความพร้อมใช้งานของเนื้อหาในภูมิภาคและสิทธิ์ของคุณสำหรับข้อเสนอและการสมัครใช้บริการ
- ช่วยปรับปรุงและปรับ Apple Music และ Apple Music Classical ให้เหมาะสมสำหรับคุณและผู้อื่น และสื่อสารกับคุณเกี่ยวกับแอป Apple Music และ Apple Music Classical รวมถึงผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อเสนออื่นๆ จาก Apple ที่คุณอาจสนใจ
- สร้างและรักษาโปรไฟล์ Apple Music และเพลย์ลิสต์ของคุณ
- จ่ายค่าลิขสิทธิ์และจัดทำรายงานสำหรับผู้เผยแพร่ ค่ายเพลง ศิลปิน และตัวรวบรวมอันดับยอดนิยม
- ป้องกันการโจรกรรมและกิจกรรมอื่นที่ประสงค์ร้าย
ข้อมูลที่ใช้รวมถึง:
- การใช้แอป Apple Music และ Apple Music Classical ของคุณรวมถึงการโต้ตอบของคุณที่มีต่อคุณสมบัติ การแจ้งเตือนภายในแอปและข้อความ และเนื้อหาที่คุณฟัง ค้นหา ดู เพิ่มไปยังคลังของคุณ และดาวน์โหลดบน Apple Music และ Apple Music Classical
- รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์และบัญชีของคุณ
- ที่อยู่ IP ของคุณ
- โปรไฟล์ Apple Music และเพลย์ลิสต์ของคุณ
- คะแนนความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์
ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของคุณได้
เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ ถ่ายโอน และเปิดเผยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของคุณได้ด้วยวัตถุประสงค์ใดๆ ตัวอย่างเช่น เราอาจรวบรวมข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของคุณได้พร้อมกับข้อมูลผู้ใช้ Apple Music คนอื่นเพื่อปรับปรุงบริการนี้ เรายังอาจเก็บรวบรวมข้อมูลตัวชี้วัดประสิทธิภาพบางอย่างจากอุปกรณ์ของคุณเมื่อคุณใช้ Apple Music ซึ่งรวมถึงความแรงของความถี่คลื่นวิทยุ รหัสประเทศ รหัสเครือข่าย และเทคโนโลยีการเข้าถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อีกด้วย
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Apple Music
สำหรับข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งคุณสมบัติและราคา ให้ไปที่ www.apple.com/th/apple-music
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับตัวเล่น Apple Music บนเว็บและความเป็นส่วนตัว ให้ไปที่ www.apple.com/th/legal/privacy/data/th/apple-music-web
ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดย Apple จะได้รับการปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple เสมอ ซึ่งสามารถอ่านได้ที่ https://www.apple.com/th/privacy/
วันที่เผยแพร่: 6 พฤศจิกายน 2024