คู่มือผู้ใช้ iPhone
- ยินดีต้อนรับ
-
- รุ่นที่รองรับ
- iPhone 8
- iPhone 8 Plus
- iPhone X
- iPhone XR
- iPhone XS
- iPhone XS Max
- iPhone 11
- iPhone 11 Pro
- iPhone 11 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 2)
- iPhone 12 mini
- iPhone 12
- iPhone 12 Pro
- iPhone 12 Pro Max
- iPhone 13 mini
- iPhone 13
- iPhone 13 Pro
- iPhone 13 Pro Max
- iPhone SE (รุ่นที่ 3)
- iPhone 14
- iPhone 14 Plus
- iPhone 14 Pro
- iPhone 14 Pro Max
- มีอะไรใหม่ใน iOS 16
-
- ปรับระดับเสียง
- ทำงานมัลติทาสก์ด้วยหน้าต่างย่อยในหน้าต่างหลัก
- เข้าถึงคุณสมบัติจากหน้าจอล็อค
- ดูกิจกรรมใน Dynamic Island
- ดำเนินการการทำงานด่วน
- ค้นหาจากหน้าจอโฮมหรือหน้าจอล็อค
- ใช้ AirDrop เพื่อส่งรายการ
- ถ่ายภาพหน้าจอหรือบันทึกหน้าจอ
- รับข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone ของคุณ
- ดูหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าข้อมูลเซลลูลาร์
- เดินทางพร้อมกับ iPhone
-
- เครื่องคิดเลข
- เข็มทิศ
-
- ตั้งค่า FaceTime
- โทรออกและรับสาย
- สร้างลิงก์ FaceTime
- ถ่าย Live Photos
- เปิดใช้คำบรรยายเสียงสดในสายโทร FaceTime
- ใช้แอปอื่นระหว่างโทรศัพท์
- โทร FaceTime แบบกลุ่ม
- ดูผู้เข้าร่วมในรูปแบบตาราง
- ใช้ SharePlay เพื่อดู ฟัง และเล่นด้วยกัน
- แชร์หน้าจอของคุณ
- ส่งต่อจากสายโทร FaceTime ไปยังอุปกรณ์อีกเครื่องหนึ่ง
- เปลี่ยนการตั้งค่าวิดีโอ
- เปลี่ยนการตั้งค่าเสียง
- เพิ่มเอฟเฟ็กต์กล้อง
- ออกจากการโทรหรือสลับไปใช้แอปข้อความ
- ปิดกั้นผู้โทรที่ไม่ต้องการ
-
- บทนำเรื่องแอปบ้าน
- อัปเกรดเป็นสถาปัตยกรรมบ้านแบบใหม่
- ตั้งค่าอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมอุปกรณ์เสริม
- ควบคุมบ้านของคุณโดยใช้ Siri
- กำหนดค่า HomePod
- ควบคุมบ้านของคุณจากระยะไกล
- สร้างและใช้บรรยากาศ
- สร้างการทำงานอัตโนมัติ
- กำหนดค่ากล้อง
- การจำใบหน้า
- ปลดล็อคประตูของคุณด้วยกุญแจบ้าน
- กำหนดค่าเราท์เตอร์
- แชร์ตัวควบคุมกับคนอื่น
- เพิ่มบ้านเพิ่มเติม
-
- ดูแผนที่
-
- ค้นหาสถานที่
- ค้นหาสถานที่น่าสนใจ ร้านอาหาร และบริการที่อยู่ใกล้เคียง
- รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่
- ทำเครื่องหมายสถานที่
- แชร์สถานที่
- จัดอันดับสถานที่
- บันทึกสถานที่โปรด
- สำรวจสถานที่ใหม่ๆ ด้วยสถานที่น่าสนใจ
- จัดระเบียบสถานที่ในสถานที่น่าสนใจของฉัน
- รับข้อมูลจราจรและข้อมูลสภาพอากาศ
- ลบตำแหน่งที่ตั้งสำคัญ
- ค้นหาการตั้งค่าแผนที่ของคุณ
- เรียกรถรับส่ง
-
- ตั้งค่าแอปข้อความ
- ส่งและตอบกลับข้อความ
- เลิกส่งและแก้ไขข้อความ
- ติดตามข้อความและการสนทนา
- ส่งต่อและแชร์ข้อความ
- เริ่มต้นการสนทนาแบบกลุ่ม
- เพิ่มรูปภาพและวิดีโอ
- ส่งและรับเนื้อหา
- ดู ฟัง หรือเล่นด้วยกันโดยใช้ SharePlay
- ใช้งานโปรเจ็กต์ร่วมกัน
- ทำให้ข้อความเคลื่อนไหว
- ใช้แอป iMessage
- ใช้ Memoji
- ส่งข้อความเสียงที่บันทึกไว้
- ส่งเอฟเฟ็กต์ Digital Touch
- ส่งเงิน รับเงิน และขอเงินผ่าน Apple Cash
- เปลี่ยนการแจ้งเตือน
- ปิดกั้น ฟิลเตอร์ และแจ้งข้อความ
- ลบข้อความ
- กู้คืนข้อความที่ถูกลบ
-
- ดูรูปภาพ
- เล่นวิดีโอและสไลด์โชว์
- ลบหรือซ่อนรูปภาพและวิดีโอ
- แก้ไขรูปภาพและวิดีโอ
- ตัดต่อความยาววิดีโอและปรับสโลว์โมชั่น
- แก้ไขวิดีโอโหมดภาพยนตร์
- แก้ไข Live Photos
- แก้ไขรูปภาพในโหมดภาพถ่ายบุคคล
- ใช้อัลบั้มรูปภาพ
- แก้ไขและจัดระเบียบอัลบั้ม
- ฟิลเตอร์และเรียงรูปภาพและวิดีโอในอัลบั้ม
- ทำสำเนาและคัดลอกรูปภาพและวิดีโอ
- ค้นหาและลบรูปภาพและวิดีโอซ้ำ
- ค้นหารูปภาพ
- ค้นหาและระบุผู้คนในแอปรูปภาพ
- เลือกหารูปภาพตามตำแหน่งที่ตั้ง
- แชร์รูปภาพและวิดีโอ
- แชร์วิดีโอแบบยาว
- ดูรูปภาพและวิดีโอที่แชร์กับคุณ
- ใช้ข้อความในภาพเพื่อโต้ตอบกับเนื้อหาในรูปภาพหรือวิดีโอ
- ใช้ค้นดูจากภาพเพื่อระบุวัตถุในรูปภาพของคุณ
- ยกสิ่งที่ถ่ายขึ้นจากพื้นหลังของรูปภาพ
- ดูความทรงจำ
- ปรับแต่งความทรงจำของคุณสำหรับคุณโดยเฉพาะ
- จัดการความทรงจำและรูปภาพแนะนำ
- นำเข้ารูปภาพและวิดีโอ
- พิมพ์รูปภาพ
- คำสั่งลัด
- เคล็ดลับ
-
- เก็บบัตรและตั๋วในแอปกระเป๋าสตางค์
- ตั้งค่า Apple Pay
- ใช้ Apple Pay สำหรับการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส
- ใช้ Apple Pay ในแอป แอปคลิป และ Safari
- ใช้ Apple Cash
- ใช้ Apple Card
- ใช้ Savings
- จัดการบัตรชำระเงินและกิจกรรม
- ชำระค่าโดยสาร
- ใช้กุญแจดิจิทัล
- ใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนมลรัฐของคุณ
- ใช้บัตรประจำตัวนักเรียน
- บัตรบัญชี Apple
- เพิ่มและใช้บัตร
- จัดการบัตร
- ใช้บัตรการฉีดวัคซีนโควิด-19
-
- แชร์การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตของคุณ
- อนุญาตสายโทรศัพท์บน iPad, iPod touch และ Mac ของคุณ
- ใช้ iPhone เป็นเว็บแคม
- ส่งต่องานระหว่างอุปกรณ์
- สตรีมวิดีโอ รูปภาพ และเสียงแบบไร้สายไปยัง Mac
- ตัด คัดลอก และวางระหว่าง iPhone กับอุปกรณ์เครื่องอื่น
- เชื่อมต่อ iPhone และคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยสาย
-
- ถ่ายโอนไฟล์ระหว่างอุปกรณ์
- ถ่ายโอนไฟล์โดยใช้อีเมล ข้อความ หรือ AirDrop
- อัปเดตไฟล์ให้ตรงกันอยู่เสมอโดยอัตโนมัติด้วย iCloud
- ถ่ายโอนไฟล์โดยใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก
- ใช้เซิร์ฟเวอร์ไฟล์เพื่อแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone กับคอมพิวเตอร์ของคุณ
- แชร์ไฟล์กับบริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบคลาวด์
- เชื่อมข้อมูลเนื้อหาหรือถ่ายโอนไฟล์โดยใช้ Finder หรือ iTunes
-
- บทนำเรื่อง CarPlay
- เชื่อมต่อกับ CarPlay
- ใช้ Siri
- ใช้ตัวควบคุมในรถของคุณ
- รับเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว
- แจ้งเหตุการณ์จราจร
- เปลี่ยนมุมมองแผนที่
- โทรออก
- เล่นเพลง
- ดูปฏิทินของคุณ
- ส่งและรับข้อความตัวอักษร
- อ่านข้อความตัวอักษรขาเข้า
- เล่นพ็อดคาสท์
- เล่นหนังสือเสียง
- ฟังข่าวสาร
- ควบคุมบ้านของคุณ
- ใช้แอปอื่นด้วย CarPlay
- จัดเรียงไอคอนต่างๆ ใหม่บนหน้าโฮมของ CarPlay
- เปลี่ยนการตั้งค่าใน CarPlay
-
- เริ่มต้นด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึง
-
-
- เปิดใช้แล้วฝึกหัดใช้ VoiceOver
- เปลี่ยนการตั้งค่า VoiceOver ของคุณ
- เรียนรู้คำสั่งนิ้ว VoiceOver
- สั่งงาน iPhone เมื่อ VoiceOver เปิดอยู่
- ควบคุม VoiceOver โดยใช้ตัวหมุน
- ใช้แป้นพิมพ์บนหน้าจอ
- เขียนด้วยนิ้วของคุณ
- ใช้ VoiceOver กับแป้นพิมพ์ภายนอกของ Apple
- ใช้เครื่องแสดงผลอักษรเบรลล์
- ป้อนอักษรเบรลล์ให้แสดงบนหน้าจอ
- กำหนดคำสั่งนิ้วและคำสั่งลัดแป้นพิมพ์เอง
- ใช้ VoiceOver กับอุปกรณ์ตัวชี้
- ใช้ VoiceOver สำหรับภาพและวิดีโอ
- ใช้ VoiceOver ในแอปต่างๆ
- ซูม
- จอภาพและขนาดข้อความ
- การเคลื่อนไหว
- การอ่านเนื้อหา
- คำบรรยายเสียง
-
-
- ใช้การปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในตัว
- ทำให้ Apple ID ของคุณปลอดภัย
-
- ลงชื่อเข้าด้วยพาสคีย์
- ลงชื่อเข้าด้วย Apple
- ป้อนรหัสผ่านที่ปลอดภัยสูงโดยอัตโนมัติ
- เปลี่ยนรหัสผ่านที่ปลอดภัยต่ำหรือถูกลดหย่อนความปลอดภัย
- ดูรหัสผ่านและข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคุณ
- แชร์พาสคีย์และรหัสผ่านอย่างปลอดภัยด้วย AirDrop
- ทำให้พาสคีย์และรหัสผ่านของคุณมีบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ
- ป้อนรหัสการตรวจสอบยืนยันโดยอัตโนมัติ
- ป้อนรหัส SMS โดยอัตโนมัติ
- ลงชื่อเข้าด้วยความท้าทาย CAPTCHA ที่น้อยลงบน iPhone
- จัดการการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยสำหรับ Apple ID ของคุณ
- ใช้รหัสความปลอดภัย
- สร้างและจัดการที่อยู่สำหรับซ่อนอีเมลของฉัน
- ปกป้องการท่องเว็บของคุณด้วย iCloud Private Relay
- ใช้ที่อยู่เครือข่ายส่วนตัว
- ใช้การปกป้องข้อมูลขั้นสูง
- โหมดล็อคดาวน์
-
- เปิดหรือปิดเครื่อง iPhone
- บังคับให้ iPhone เริ่มการทำงานเครื่องใหม่
- อัปเดต iOS
- สำรองข้อมูล iPhone
- คืนการตั้งค่า iPhone กลับเป็นค่าเริ่มต้น
- กู้คืนเนื้อหาทั้งหมดจากข้อมูลสำรอง
- กู้คืนรายการที่ซื้อและรายการที่ลบ
- ขาย ยกให้ หรือแลกเปลี่ยน iPhone ของคุณกับผู้อื่น
- ลบข้อมูล iPhone
- ติดตั้งหรือเอาโปรไฟล์การกำหนดค่าออก
-
- ข้อมูลด้านความปลอดภัยที่สำคัญ
- ข้อมูลด้านการดูแลที่สำคัญ
- ค้นหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และบริการ
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ FCC
- แถลงการณ์การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ ISED Canada
- ข้อมูลแถบความถี่กว้างยิ่งยวด
- ข้อมูลเกี่ยวกับเลเซอร์คลาส 1
- Apple กับสิ่งแวดล้อม
- ข้อมูลด้านการกำจัดและการรีไซเคิล
- การแก้ไข iOS โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ลิขสิทธิ์
ตั้งค่าเวลาหน้าจอสำหรับตัวคุณเองบน iPhone
เมื่อใช้เวลาหน้าจอ คุณสามารถจัดการการใช้แอปของคุณ กำหนดเวลาเพื่อให้อยู่ห่างจากอุปกรณ์ของคุณ และอื่นๆ ได้ คุณสามารถเปลี่ยนหรือปิดใช้การตั้งค่าเหล่านี้ได้ตลอดเวลา
กำหนดเวลาเพื่อให้อยู่ห่างจากหน้าจอ
ในเวลาหน้าจอ คุณสามารถปิดกั้นแอปและการแจ้งเตือนเป็นช่วงเวลาหนึ่งเมื่อคุณต้องการเวลาอยู่ห่างจากอุปกรณ์ของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการกำหนดเวลาไม่ใช้งานในระหว่างมื้ออาหารหรือเวลานอน
ไปที่การตั้งค่า > เวลาหน้าจอ จากนั้นเปิดใช้เวลาหน้าจอหากคุณยังไม่ได้เปิดใช้
แตะ เวลาไม่ใช้งาน แล้วเปิดใช้ เวลาไม่ใช้งาน
เลือก ทุกวัน หรือ กำหนดวัน แล้วตั้งเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุด
เปิดใช้เวลาไม่ใช้งานตามต้องการ
ในระหว่างเวลาไม่ใช้งาน มีเฉพาะสายโทร ข้อความ และแอปที่คุณเลือกเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ คุณสามารถรับสายโทรจากผู้ติดต่อที่คุณเลือกให้อนุญาตการสื่อสารในระหว่างเวลาไม่ใช้งาน และคุณสามารถใช้แอปที่คุณเลือกให้อนุญาตตลอดเวลาได้
เมื่อคุณเปิดใช้เวลาไม่ใช้งานตามต้องการ เตือนความจำเวลาห้านาทีจะถูกส่งก่อนที่จะเปิดใช้งานเวลาไม่ใช้งาน เตือนความำจะเปิดอยู่ตลอดจนถึงสิ้นสุดวัน หรือจนกว่าเวลาไม่ใช้งานของคุณจะเริ่มต้นขึ้นหากคุณกำหนดเวลาไว้
ไปที่การตั้งค่า > เวลาหน้าจอ จากนั้นเปิดใช้เวลาหน้าจอหากคุณยังไม่ได้เปิดใช้
แตะ เวลาไม่ใช้งาน แล้วแตะ เปิดใช้เวลาไม่ใช้งานจนถึงพรุ่งนี้ หรือ เปิดใช้เวลาไม่ใช้งานจนถึงกำหนดเวลา (หากเปิดใช้กำหนดเวลาอยู่)
ในการปิดใช้เวลาไม่ใช้งานตามต้องการ ให้แตะ ปิดใช้เวลาใช้งาน
หมายเหตุ: คุณยังสามารถเปิดใช้เวลาไม่ใช้งานตามต้องการสำหรับสมาชิกครอบครัว ไม่ว่าจะโดยตรงบนอุปกรณ์ของสมาชิกในครอบครัว หรือผ่านการแชร์กันในครอบครัวบนอุปกรณ์ของคุณได้อีกด้วย
ตั้งค่าการจำกัดสำหรับการใช้แอป
คุณสามารถตั้งค่าการจำกัดเวลาสำหรับหมวดหมู่ของแอปต่างๆ (เช่น เกมหรือสังคมออนไลน์) และสำหรับแต่ละแอปได้
ไปที่การตั้งค่า > เวลาหน้าจอ จากนั้นเปิดใช้เวลาหน้าจอหากคุณยังไม่ได้เปิดใช้
แตะ การจำกัดการใช้แอป แล้วแตะ เพิ่มการจำกัด
เลือกหมวดหมู่แอปอย่างน้อยหนึ่งหมวดหมู่
ในการตั้งค่าการจำกัดสำหรับแต่ละแอป ให้แตะชื่อหมวดหมู่เพื่อดูแอปทั้งหมดในหมวดหมู่นั้น แล้วเลือกแอปที่คุณต้องการจำกัด ถ้าคุณเลือกหลายหมวดหมู่หรือหลายแอป การจำกัดเวลาที่คุณตั้งไว้จะใช้กับหมวดหมู่หรือแอปทั้งหมด
แตะ ถัดไป แล้วตั้งค่าระยะเวลาที่อนุญาต
ในการตั้งค่าระยะเวลาสำหรับแต่ละวัน ให้แตะ กำหนดวัน แล้วตั้งค่าการจำกัดเฉพาะวัน
เมื่อคุณตั้งค่าการจำกัดเสร็จแล้ว ให้แตะ เพิ่ม
ในการปิดใช้การจำกัดการใช้แอปทั้งหมดชั่วคราว ให้แตะ การจำกัดการใช้แอป บนหน้าจอการจำกัดการใช้แอป ในการปิดใช้การจำกัดเวลาชั่วคราวสำหรับหมวดหมู่ใดโดยเฉพาะ ให้แตะหมวดหมู่ จากนั้นปิดใช้ การจำกัดการใช้แอป
ในการเอาการจำกัดเวลาออกสำหรับหมวดหมู่ ให้แตะหมวดหมู่ จากนั้นแตะ ลบการจำกัด
ตั้งค่าการจำกัดการสื่อสาร
ในเวลาหน้าจอ คุณสามารถอนุญาตหรือปิดกั้นการสื่อสารได้ รวมถึงสายโทรเข้าและสายโทรออก การโทร FaceTime และข้อความต่างๆ จากผู้ติดต่อบางคนใน iCloud ไม่ว่าจะตลอดเวลาหรือในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
ถ้าคุณไม่ได้เปิดใช้แอปรายชื่อไว้อยู่แล้วบน iCloud ให้ไปที่ การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > iCloud แล้วเปิดใช้แอปรายชื่อ
ไปที่การตั้งค่า > เวลาหน้าจอ จากนั้นเปิดใช้เวลาหน้าจอหากคุณยังไม่ได้เปิดใช้
แตะ การจำกัดการสื่อสาร แตะ ในระหว่างเวลาหน้าจอ จากนั้นเลือกตัวเลือกใดต่อไปนี้สำหรับการสื่อสารตลอดเวลา (ไม่ใช่เวลาไม่ใช้งาน):
รายชื่อเท่านั้น: เพื่ออนุญาตการสื่อสารกับรายชื่อของคุณเท่านั้น
รายชื่อและกลุ่มที่มีอย่างน้อยหนึ่งรายชื่อ เพื่ออนุญาตการสนทนาแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับคนในรายชื่อและการสนทนาแบบกลุ่มของคุณที่มีอย่างน้อยหนึ่งคนอยู่ในรายชื่อของคุณ
ทุกคน: เพื่ออนุญาตการสนทนากับทุกๆ คน รวมถึงเบอร์ที่ไม่รู้จัก
แตะ ย้อนกลับ ที่ด้านบนสุด จากนั้นแตะ ในระหว่างเวลาไม่ใช้งาน
ตัวเลือกที่คุณเลือกสำหรับในระหว่างเวลาหน้าจอได้ถูกตั้งค่าไว้ที่นี่แล้ว คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้เป็น เฉพาะรายชื่อ จากนั้นเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้:
เลือกจากรายชื่อของฉัน: เพื่อเลือกผู้ติดต่อที่อนุญาตการสื่อสารในระหว่างเวลาไม่ใช้งาน
เพิ่มรายชื่อใหม่: เพื่อเพิ่มคนไปยังรายชื่อของคุณแล้วอนุญาตการสื่อสารกับคนๆ นั้นในระหว่างเวลาไม่ใช้งาน
ถ้ามีใครบางคนที่ถูกปิดกั้นโดยการตั้งค่าการจำกัดการสื่อสารของคุณอยู่ในตอนนี้พยายามที่จะโทรหรือส่งข้อความหาคุณ การสื่อสารจากคนๆ นั้นจะไม่สามารถทำได้
ถ้าคุณพยายามโทรหรือส่งข้อความหาใครบางคนที่ถูกปิดกั้นโดยการตั้งค่าการจำกัดการสื่อสารของคุณอยู่ในตอนนี้ ชื่อและเบอร์ของคนๆ นั้นจะแสดงขึ้นเป็นสีแดงในรายการของสายโทรหรือข้อความล่าสุดของคุณ และการสื่อสารจะไม่สามารถทำได้ คุณสามารถสื่อสารกับคนเหล่านั้นได้เมื่อการจำกัดการสื่อสารมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าการจำกัดดังกล่าวปรับใช้เฉพาะกับเวลาที่ไม่ใช้งาน คุณจะได้รับข้อความเกี่ยวกับการจำกัดเวลา คุณสามารถกลับไปดำเนินการสื่อสารต่อกับคนเหล่านั้นได้เมื่อเวลาไม่ใช้งานสิ้นสุดลง
ในการสื่อสารต่อกับรายชื่อที่ถูกปิดกั้นอยู่โดยการตั้งค่าการจำกัดการสื่อสารของคุณ ให้เปลี่ยนการตั้งค่าโดยทำตามขั้นตอนด้านบน
เลือกแอปหรือรายชื่อที่คุณต้องการอนุญาตตลอดเวลา
ในเวลาหน้าจอ คุณสามารถระบุแอปที่สามารถใช้ได้ และผู้ติดต่อที่คุณสามารถสื่อสารด้วยตลอดเวลา แม้ว่าจะอยู่ในระหว่างเวลาไม่ใช้งาน (ตัวอย่างเช่น ในกรณีของเหตุฉุกเฉิน)
ไปที่การตั้งค่า > เวลาหน้าจอ > อนุญาตเสมอ
ที่ด้านล่างแอปที่ได้รับอนุญาต ให้แตะ หรือ ถัดจากแอปเพื่อเพิ่มหรือเอาแอปออกจากรายการแอปที่ได้รับอนุญาต
ในการระบุรายชื่อที่คุณต้องการอนุญาตการสื่อสารด้วย ให้แตะ รายชื่อ
ตัวเลือกที่คุณเลือกในการจำกัดการสื่อสารจะแสดงขึ้นที่นี่ คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่านี้เป็น เฉพาะรายชื่อ จากนั้นเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้:
เลือกจากรายชื่อของฉัน: เพื่อเลือกคนที่เฉพาะเจาะจงในการอนุญาตการสื่อสารด้วย
เพิ่มรายชื่อใหม่: เพื่อเพิ่มรายชื่อใหม่แล้วอนุญาตการสื่อสารกับคนๆ นั้น
แตะ ย้อนกลับ ที่ด้านซ้ายบนสุด
ตั้งค่าข้อจำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว
คุณสามารถปิดกั้นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและตั้งค่าข้อจำกัดสำหรับการซื้อสินค้าใน iTunes Store และ App Store ได้
ไปที่ การตั้งค่า > เวลาหน้าจอ
แตะ จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว จากนั้นเปิดใช้ จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว
คุณยังสามารถตั้งรหัสที่ต้องใช้ก่อนเปลี่ยนการตั้งค่าได้อีกด้วย
เลือกตัวเลือกเพื่อตั้งค่าการอนุญาตเนื้อหาสำหรับสินค้าที่ซื้อจาก iTunes Store และ App Store, การใช้แอป, ระดับความเหมาะสมของเนื้อหา และอื่นๆ
หมายเหตุ: ในการจำกัด SharePlay ในการโทร FaceTime บนอุปกรณ์ของคุณ ให้ไปที่ การตั้งค่า > เวลาหน้าจอ > จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว > แอปที่ได้รับอนุญาต จากนั้นปิดใช้ SharePlay ในการอนุญาต SharePlay ให้เปิดใช้คุณสมบัตินี้
ในการแชร์การตั้งค่าและรายงานเวลาหน้าจอบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณลงชื่อเข้าด้วย Apple ID เดียวกันและเปิดใช้แชร์ทุกอุปกรณ์อยู่