ความท้าทาย
Planity เริ่มต้นธุรกิจด้วยการทำระบบการจองออนไลน์ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส โดยช่วยให้ลูกค้าจองนัดหมายเพื่อตัดผมและรับบริการซาลอนอื่นๆ แต่เว็บไซต์ของ Planity ใช้รูปแบบเริ่มต้น จึงไม่มีฟังก์ชันการชำระเงินในตัว ทำให้ซาลอนต่างๆ ต้องจัดการการชำระเงินด้วยตนเอง
ในที่สุดผู้บริหารของ Planity ก็เล็งเห็นโอกาสในการเปลี่ยนเว็บไซต์การจองออนไลน์ให้เป็นแพลตฟอร์มที่ครบครันมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายในการมอบบริการซาลอนพร้อมโซลูชันการจัดการรายรับที่เชื่อมต่อระบบในตัว ทำให้จัดการการจองและรายรับ ติดตามค่าใช้จ่าย และดูธุรกรรมทั้งหมดได้ในที่เดียว
นอกจากนี้ Planity ยังต้องการช่วยซาลอนแก้ปัญหาด้านการสูญเสียรายรับจากการที่ลูกค้าไม่มาใช้บริการที่จองไว้อีกด้วย ซึ่งบริษัทต้องการเปิดตัวระบบชำระค่ามัดจำที่จะช่วยให้ลูกค้ามาตามนัดหมาย และช่วยให้ซาลอนยังคงมีรายรับแม้ว่าลูกค้าจะไม่มาใช้บริการก็ตาม
นอกจากระบบการชำระเงินออนไลน์แล้ว Planity ยังต้องการนำเสนอโซลูชันสำหรับเรียกเก็บการชำระเงินที่หน้าร้านและทิป ซึ่ง Planity จะต้องปิดช่องว่างระหว่างการชำระเงินทางออนไลน์และออฟไลน์เพื่อประมวลผลธุรกรรมในซาลอนให้ได้ครบถ้วนและปรับปรุงกระบวนการให้ทิป
เมื่อต้องการขยายเข้าสู่ตลาดแห่งใหม่อย่างเบลเยียมและเยอรมนี บริษัทก็จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มการชำระเงินที่พร้อมปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการด้านการชำระเงินที่แตกต่างออกไปตามพื้นที่และใบรับรองด้านซอฟต์แวร์บันทึกเงินสด "การจะเป็นผู้นำในยุโรปได้นั้น เราต้องมีพาร์ทเนอร์ที่ก้าวทันนวัตกรรมด้านฟินเทค ซึ่งเป็นสิ่งที่ยุโรปยังคงตามหลังสหรัฐฯ อยู่" Antoine Puymirat ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Planity กล่าว "เราต้องการตามให้ทันเทคโนโลยีด้านฟินเทคที่ก้าวหน้าของสหรัฐฯ ให้ได้"
โซลูชัน
Planity เลือก Stripe ตั้งแต่แรกเริ่มในปี 2021 เนื่องจากมีสถาปัตยกรรมที่น่าเชื่อถือและ API ที่ใช้งานง่าย ซึ่งจะช่วยลดความซับซ้อนในการเชื่อมต่อระบบ เหตุผลหลักอีกข้อคือความสามารถของ Stripe ในการรองรับวิธีการชำระเงินในท้องถิ่นที่บริษัทการชำระเงินคู่แข่งส่วนใหญ่ในฝรั่งเศสไม่มี
Planity ติดตั้งใช้งาน Stripe Connect เพื่อจัดการกระแสเงินระหว่างแพลตฟอร์มและซาลอนแต่ละแห่ง รวมถึงระหว่างซาลอนและลูกค้าด้วย ซึ่ง Connect ช่วยให้ Planity ใช้ระบบอัตโนมัติกับการชำระเงินและลดภาระด้านการดำเนินงานไปพร้อมๆ กับการสร้างช่องทางรายรับใหม่ผ่านการคิดค่าธรรมเนียมบริการ ขณะนี้ Planity ได้เชื่อมต่อระบบ Stripe เข้ากับแดชบอร์ดของตนแล้ว ทำให้ซาลอนต่างๆ จัดการรายรับ ติดตามค่าใช้จ่าย และดูข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดได้อย่างสะดวกในที่เดียว
ขณะเดียวกัน Planity ก็นำ Stripe Payments มาใช้งานเพื่อนำเสนอโซลูชันการชำระเงินที่รวดเร็วและปลอดภัยให้แก่ซาลอน และเพื่อจัดการปัญหาการไม่มาใช้บริการตามนัดของลูกค้า โดยการเชื่อมต่อระบบ Payments เข้ากับแพลตฟอร์มการจองออนไลน์ทำให้ Planity มอบโซลูชันการรับชำระเงินสดพร้อมความสามารถในการเรียกเก็บเงินมัดจำขณะจองบริการให้แก่ซาลอนแต่ละแห่งได้ การชำระเงินมัดจำเมื่อจองออนไลน์จะให้ลูกค้าชำระค่าบริการแบบเต็มจำนวนหรือบางส่วนเพื่อยืนยันการนัดหมาย หากลูกค้ายกเลิกการจองนอกเวลาที่กำหนดหรือไม่มาตามนัดหมาย ซาลอนก็จะได้รับเงินเป็นจำนวนขั้นต่ำตามที่กำหนด
ในปี 2022 Planity ก็ได้เพิ่ม Stripe Terminal เข้ามาในแพลตฟอร์มเพื่อสร้างประสบการณ์การชำระเงินหน้าร้านซาลอน นอกจากนี้ ระบบการให้ทิปในเครื่องอ่านบัตร Terminal ยังช่วยให้ซาลอนแสดงจำนวนทิปที่แนะนำก่อนลูกค้าชำระเงินได้ด้วย และเนื่องจาก Terminal เป็นเครื่องอ่านบัตรที่ทำงานร่วมกับ Connect ได้โดยเฉพาะ Planity จึงเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการเพิ่มผู้ใช้ การเบิกจ่าย และการกระทบยอดสำหรับธุรกรรมทุกรายการได้
Planity ขยายธุรกิจไปทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดยุโรปที่มีความหลากหลายผ่านการติดตั้งใช้งานชุดเครื่องมือการชำระเงินที่เพิ่มประสิทธิภาพของ Stripe ซึ่งรวมถึง Payment Element และแสดงวิธีการชำระเงินอย่างสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ Planity เพิ่มอัตราการชำระเงินสำเร็จจากวิธีการชำระเงินที่หลากหลายในท้องถิ่น และจัดการกับสกุลเงินต่างๆ ได้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จำเป็นต่อการเติบโตในตลาดยุโรป
ผลลัพธ์
ข้อมูลเชิงลึกที่ทรงประสิทธิภาพและอัตราการรักษาลูกค้าธุรกิจซาลอน
แดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายของ Stripe ช่วยมอบข้อมูลเชิงลึกทางเทคนิคเกี่ยวกับธุรกรรมและการรายงาน "ลูกค้าที่เป็นธุรกิจซาลอนใช้แดชบอร์ดที่มีข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินต่างๆ แทบจะตลอดเวลา ซึ่งการแสดงข้อมูลอย่างครบถ้วนนี้จะช่วยลดสายโทรขอรับการสนับสนุนและช่วยให้เจ้าของซาลอนตอบคำถามเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าได้" Puymirat กล่าว ยิ่งไปกว่านั้น ทีมภายในของ Planity ยังได้รับข้อมูลเชิงลึกแบบทันทีโดยที่ไม่ต้องเปิดตั๋วกับผู้พัฒนาระบบเลย
Planity เพิ่มความพึงพอใจและอัตราการรักษาลูกค้าโดยรวมได้สำเร็จ Planity สังเกตว่าอัตราการรักษาลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่ซาลอนที่ใช้โซลูชันแบบเชื่อมต่อระบบอย่างเต็มรูปแบบ (Payments และ Terminal) และมีอัตราการเลิกใช้บริการน้อยกว่าซาลอนที่ใช้ Terminal เพียงอย่างเดียวเกือบครึ่งหนึ่ง
ลูกค้ามาใช้บริการตามนัดหมายถึง 75% ทำให้ Planity มีรายรับเพิ่มขึ้น 5%
หลังจากที่เปิดตัว Payments ซาลอนที่ใช้บริการของ Planity ก็สามารถเรียกเก็บค่ามัดจำขณะที่จองและเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ได้หากลูกค้าไม่มาตามนัดหมาย โดยขณะนี้อัตราลูกค้าที่มาตามนัดหมายสูงถึง 75% และซาลอนสามารถสร้างเงินจากช่องทางใหม่ในกรณีที่ลูกค้าไม่มาใช้บริการได้ด้วย ในขณะเดียวกัน เมื่อระบบบังคับให้ลูกค้าชำระค่ามัดจำเมื่อทำการจอง Planity ก็สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบริการเพิ่มเติมจากลูกค้าที่เป็นธุรกิจซาลอนได้ "หลังจากที่ใช้ Stripe เราก็สร้างรายได้จากระบบการเก็บเงินมัดจำได้ ทำให้ Planity มีรายรับเพิ่มขึ้น 5% และเราหวังว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 40% ซึ่งรวมถึงการชำระเงินหน้าร้านซาลอนโดยใช้เครื่องอ่านบัตรในระบบบันทึกการขาย" Puymirat กล่าว
ปริมาณการชำระเงินต่อปีและรายรับจากทิปเพิ่มขึ้น 200%
Terminal ช่วยให้ Planity จัดการการชำระเงินได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการรวมธุรกรรมออฟไลน์และออนไลน์ไว้ในที่เดียว วิธีนี้คือกุญแจสำคัญที่สร้างรายรับจากซาลอนกว่า 70% จากบริการทั้งหมดในร้าน ผลลัพธ์ที่ได้คือปริมาณการชำระเงินของ Planity เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 40 ล้านยูโรในปี 2020 เป็น 120 ล้านยูโรในปี 2023 นอกจากนี้ ตัวเลือกการให้ทิปแบบอัตโนมัติยังทำให้ปริมาณทิปเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า อีกทั้ง Stripe ยังช่วยให้ Planity สร้างฟีเจอร์ที่ให้ซาลอนจ่ายเงินค่าทิปแก่ช่างแต่ละคนได้อย่างเท่าเทียมกันอีกด้วย
การขยายธุรกิจไปทั่วโลกได้สำเร็จด้วยความยืดหยุ่นของ Stripe
Stripe ช่วยให้ Planity เข้าสู่ตลาดใหม่ๆ และปรับเข้ากับความต้องการด้านการชำระเงินในแต่ละพื้นที่ได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องทำงานด้านวิศวกรรมเพิ่ม ตั้งแต่ที่เริ่มใช้ Stripe บริษัทเป็นต้นมา Planity ก็ได้เพิ่มซาลอนเข้ามาในระบบกว่า 400 แห่งจากทั้งในเบลเยียมและเยอรมนี และกำลังวางแผนขยายธุรกิจไปยังสเปน อิตาลี โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย รวมถึงเนเธอร์แลนด์ต่อไป
ธุรกิจร้านทำผมถูกใช้อ้างอิงเป็นดัชนีราคาในทางเศรษฐศาสตร์ เนื่องจากเป็นหนึ่งในธุรกิจการค้าเพียงไม่กี่ประเภทที่ไม่ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพมาเป็นระยะเวลายาวนาน การตัดผมในทุกวันนี้ยังใช้เวลาเท่าเดิมเหมือนที่เคยใช้เมื่อ 60 หรือ 400 ปีที่ผ่านมา แต่หลังจากที่ใช้ Stripe เราก็สามารถช่วยให้ซาลอนใช้ระบบอัตโนมัติกับแง่มุมอื่นๆ ได้ทั้งหมด ทำให้ช่างมีเวลาให้บริการ ดูแลลูกค้า และตัดผมอย่างเต็มที่