ผลิตภัณฑ์แรกที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนของเราสำเร็จแล้ว

Carbon Neutral

ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสะอาด 100%

ปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นต์ที่เกิดจาก Apple Watch มากกว่าสามในสี่มาจากไฟฟ้า ซึ่งส่วนที่มากที่สุดก็คือการผลิต และตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป ไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิต Apple Watch และสายนาฬิการุ่นที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนจะมาจากแหล่งไฟฟ้าสะอาด 100% นี่คือการต่อยอดจากสิ่งที่เราเริ่มทำในปี 2015 ในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนและสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่อย่างฟาร์มพลังงานลมและแสงอาทิตย์ พร้อมกับช่วยให้ซัพพลายเออร์ของเราทำได้เช่นเดียวกัน และเพื่อลดการปล่อยก๊าซให้ได้มากขึ้น เราได้ชดเชยไฟฟ้าทั้ง 100% ที่คาดการณ์ว่าคุณจะใช้ในการชาร์จ Apple Watch ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนอย่างโครงการ IP Radian Solar ในบราวน์เคาน์ตี รัฐเท็กซัส  Footnote 1

ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลมากกว่า 30% ตามน้ำหนัก

Apple Watch ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในตัวเรือนนับตั้งแต่ Series 5 เป็นต้นมา แถม Series 9 ยังใช้วัสดุรีไซเคิล 100% ในส่วนประกอบหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นทองคำที่ใช้เคลือบและดีบุกในโลหะบัดกรีของแผงวงจรพิมพ์หลายชิ้น แร่โลหะหายากในส่วนที่เป็นแม่เหล็ก ทังสเตนใน Taptic Engine Footnote 2 ไปจนถึงฟอยล์ทองแดงในแผงวงจรหลัก และในปี 2023 เราได้เพิ่มอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือการใช้โคบอลต์รีไซเคิล Footnote 3 ในแบตเตอรี่ของ Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายของเราที่จะใช้โคบอลต์รีไซเคิล 100% ในแบตเตอรี่ทั้งหมดที่ออกแบบโดย Apple ภายในปี 2025 นอกจากนี้ เรายังออกแบบหนึ่งในสายที่นิยมมากที่สุดของเราอย่างสายแบบ Sport Loop ใหม่ โดยใช้ด้ายรีไซเคิลถึง 82% ซึ่งบางส่วนมีวัสดุจากแหอวนจับปลาที่ไม่ใช้แล้วด้วย และเมื่อผสานนวัตกรรมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน Series 9 ตัวเรือนอะลูมิเนียมที่จับคู่กับสายนาฬิกาแบบ Sport Loop ใหม่ทุกแบบจึงมีวัสดุรีไซเคิลมากกว่า 30% Footnote 4

50% หรือมากกว่าของการขนส่งไม่ใช้เครื่องบิน

โดยเฉลี่ยแล้ว การขนส่งผลิตภัณฑ์ Apple ทางทะเลจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าการขนส่งอุปกรณ์เดียวกันทางอากาศถึง 95% เราจึงขนส่งน้ำหนักถึง 50% หรือมากกว่านั้นของ Apple Watch และสายรุ่นที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนทั้งหมด โดยใช้การขนส่งที่ไม่ใช่ทางอากาศ เช่น การขนส่งทางทะเล จากโรงงานจนถึงจุดหมายถัดไป ซึ่งส่งผลให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการขนส่งทั้งหมดได้เกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้เรายังออกแบบบรรจุภัณฑ์ของ Apple Watch ใหม่ ให้กะทัดรัดมากขึ้น มีรูปทรงเล็กลง ซึ่งทำให้เราสามารถจัดส่ง Apple Watch รุ่น Series 9 ได้มากขึ้นสูงถึง 25% ต่อเที่ยว และนี่เป็นครั้งแรกที่เราใช้เยื่อไม้เป็นหลัก 100% ในบรรจุภัณฑ์นี้ นี่จึงเป็นการพิชิตหมุดหมายแรกสู่คำมั่นสัญญาของเราที่จะขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025

ดูเพิ่มเติมที่ apple.com/th/2030

  1. Apple ชดเชยการใช้ไฟฟ้าทั้ง 100% ที่คาดการณ์เฉพาะสำหรับ Apple Watch Series 9 ตัวเรือนอะลูมิเนียมหรือ Apple Watch SE ที่จับคู่กับสายแบบ Sport Loop ใหม่ และสำหรับ Apple Watch Ultra 2 ที่จับคู่กับสายแบบ Alpine หรือ Trail Loop ใหม่เท่านั้น
  2. ไม่รวมทังสเตนปริมาณน้อยมากที่พบนอกเหนือจากใน Taptic Engine และคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 0.1% ของปริมาณทั้งหมดที่พบในอุปกรณ์
  3. การอ้างอิงวัสดุโคบอลต์ทั้งหมดใช้วิธีสมดุลมวล
  4. วัสดุรีไซเคิล 30% หมายถึงเมื่อจับคู่ Apple Watch Series 9 พร้อมตัวเรือนอะลูมิเนียมกับสายแบบ Sport Loop ใหม่เท่านั้น
  5. การขนส่งน้ำหนัก 50% หรือมากกว่านั้นของ Apple Watch ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนทั้งหมดโดยใช้การขนส่งที่ไม่ใช่ทางอากาศ เช่น การขนส่งทางทะเล จากโรงงานถึงจุดหมายถัดไป ส่งผลให้เราสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการขนส่งทั้งหมดได้เกือบครึ่งหนึ่ง
  6. เป้าหมายของ Apple ที่จะเลิกใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์นับรวมถึงถุงสำหรับการจำหน่ายปลีก, ตัวกล่องสินค้าภายนอกทั้งหมด (รวมถึงส่วนที่เป็นพลาสติกในฉลากและเอกสารในกล่อง), บรรจุภัณฑ์ที่ส่งถึงลูกค้าของเราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Apple Trade In, บรรจุภัณฑ์ของ AppleCare สำหรับตัวเครื่องทั้งชิ้นและโมดูลอะไหล่ (ยกเว้นพลาสติกที่ต้องใช้เพื่อปกป้องชิ้นส่วนจากการคายประจุไฟฟ้าสถิต) และบรรจุภัณฑ์รองของผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เสริม Apple ที่จำหน่ายโดย Apple เป้าหมายของเราไม่ได้รวมถึงหมึกพิมพ์ สารเคลือบผิว หรือกาวที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ของเรา